【อันดับร้านอาหารยอดนิยมในโอซาก้า】บประกันความอร่อยโดยชาวญี่ปุ่น!!

ญี่ปุ่นนั้นมีคำกล่าวที่ว่า “เกียวโนะกิดาโอเระ โอซาก้าโนะกุยดาโอเระ (หมดเงินไปกับเครื่องแต่งตัวที่เกียวโต หมดเงินไปกับของกินที่โอซาก้า)” มาตั้งแต่เมื่อก่อน ซึ่งก็เป็นไปตามคำกล่าวนั้น โอซาก้าที่ถูกเรียกขานว่าเป็น “ห้องครัวแห่งใต้หล้า” นั้นมีความพิถีพิถันอันแรงกล้าเกี่ยวกับเรื่องการกิน จึงมีของกินที่แสนอร่อยในราคาย่อมเยาอยู่อย่างมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารอย่างพวกทาโกะยากิและโอโกโนมิยากิที่ทำจากแป้งสาลีที่เรียกกันว่าโคนาโมโนะนั้น มีลักษณะเฉพาะที่ไม่มีอยู่ในเมืองอื่น ๆ เลยทีเดียว โดยในคราวนี้ เราจะขอนำเสนอร้านอาหารท้องถิ่นแนะนำที่ท่านต้องมาทานให้ได้ซึ่งเราได้เลือกสรรมาเป็นอย่างดีให้ท่านได้รู้จัก

1. ถ้าเป็นทาโกะยากิ ของขึ้นชื่อของโอซาก้าก็ต้องมาที่ร้าน “โคกะริว”

photo by derricklovestoeat   /   embedded from Instagram

สำหรับคนญี่ปุ่นในทั่วประเทศแล้ว ถ้าพูดถึงโอซาก้าก็จะจินตนาการถึง “ทาโกะยากิ” ขึ้นมาเลย ช่างเป็นอาหารขึ้นชื่อของโอซาก้าอันเป็นที่นิยมแพร่หลายเสียจริง ทาโกะยากิเป็นอาหารประเภทโคนาโมโนะที่ใส่ปลาหมึกและน้ำซุปสไตล์ญี่ปุ่นไว้ภายในเนื้อแป้งสาลีแล้วปิ้งให้เป็นลูกกลม ๆ ด้วยกระทะแผ่นเหล็กที่มีหน้าตาอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งมันแทบจะเรียกได้ว่าเป็นอาหารระดับตัวแทนของโอซาก้าเลยทีเดียว ไม่ว่าจะทานคู่กับเบียร์หรือว่าจะทานเป็นของว่างระหว่างกลับจากโรงเรียนก็ดี เรียกได้ว่าเป็นของกินที่ถือเป็นโซลฟู้ดที่ขาดไม่ได้สำหรับคนโอซาก้าเลยก็ว่าได้

ซึ่งร้านแนะนำที่สามารถมาทานทาโกะยากิได้ก็คือร้าน “โคกะริว” นั่นเอง ซึ่งร้านนี้มีสาขาหลักตั้งอยู่ที่อเมริกามุระซึ่งเป็นย่านคนหนุ่มสาวในชินไซบาชิ และยังเป็นร้านทาโกะยากิเก่าแก่ที่ก่อตั้งขึ้นมาแล้ว 40 ปีอันน่าภาคภูมิใจ ด้วยเนื้อแป้งที่ละลายในปาก ซอสสไตล์ฟรุตตี้ ปลาคัตสึโอะตากแห้ง อาโอโนริ (สาหร่ายโนริสีเขียว) แล้วเติมมายองเนสลงไปในทาโกะยากิที่มีปลาหมึกชิ้นใหญ่อยู่ข้างใน อีกทั้ง ร้านนี้ยังเป็นร้านชื่อดังถึงขนาดที่ว่าได้ตีพิมพ์ลงใน Michelin Bib Gourmand เลยทีเดียว ฉะนั้น ถ้าท่านอยากมาลิ้มรสทาโกะยากิในโอซาก้าล่ะก็ ขอให้ลองแวะมาที่ร้านโคกะริวกันได้เลย!

2. ถ้าจะมาลิ้มลองโอโคโนมิยากิชั้นเยี่ยมก็ต้องที่ร้าน “คิจิ”

photo by tomo9edy   /   embedded from Instagram

โอโคโนมิยากิในโอซาก้านั้น เป็นสไตล์ที่ผสมส่วนผสมเข้าด้วยกันแล้วปิ้งด้วยกระทะแผ่นเหล็ก การใส่มันเทศลงไปในเนื้อแป้งที่ละลายในน้ำซุป นำส่วนผสมต่าง ๆ มาผสมเข้าด้วยกันอย่างนุ่มนวล แล้วโปะด้วยเนื้อสัตว์แล้วค่อย ๆ ปิ้งขึ้นมานั้นถือเป็นสไตล์การทำโดยทั่วไป อีกทั้งตัวซอสเองก็ยังมีความพิถีพิถันเป็นอย่างมาก จึงมีรสอูมามิและรสเผ็ดที่เข้มข้นมาก ๆ เป็นจุดเด่น

ในบรรดาร้านโอโคโนมิยากิทั้งหลาย ก็มีร้านที่เราอยากจะแนะนำเป็นพิเศษก็คือร้าน “โอโคโนมิยากิ คิจิ” ที่ให้บริการโมเดิร์นยากิ ซึ่งโมเดิร์นยากิก็คือการผัดยากิโซบะด้วยไข่เพียงเท่านั้น ไข่ที่นุ่มฟูมีรสของน้ำซุปอยู่อย่างเต็มที่ทำให้ช่วยเพิ่มรสอร่อยได้เป็นอย่างมาก อีกทั้ง ร้านนี้เองก็ยังเป็นร้านชื่อดังแบบสุด ๆ ที่ได้ตีพิมพ์ลงใน Michelin, Bib Gourmand อีกด้วย ต้องเตรียมใจที่จะต้องไปต่อแถวเพื่อรอคิวเลยล่ะ

3. “ร้านโดตงโบริอิมาอิ” ที่มีน้ำซุปสุดหรูซึ่งเปี่ยมไปด้วยรสอูมามิอันยอดเยี่ยม

photo by satomix511   /   embedded from Instagram

ในญี่ปุ่นนั้นมีอุด้งอยู่มากมายหลากหลายประเภทในแต่ละพื้นที่ก็จริง แต่อุด้งของโอซาก้านั้นว่ากันว่าน้ำซุปถือเป็นชีวิตจิตใจเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว โดยน้ำซุปสไตล์คันไซนั้นมีความโปร่งใส ดูดีมีระดับ และมีรสชาติที่ชวนให้สดชื่น ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเส้นเองก็ยังมีจุดเด่นอยู่ที่ผิวสัมผัสที่อ่อนนุ่มและยังลื่นคอมาก ๆ อีกด้วย อุด้งสไตล์คันไซนั้นแม้จะนับทั่วประเทศญี่ปุ่นก็ยังถือว่ามีความโดดเด่น ฉะนั้นขอให้ลองแวะมาทานกันดูสักครั้ง

สำหรับท่านที่จะมาทานอุด้งของคันไซเราก็ขอแนะนำร้าน “โดตงโบริอิมาอิ”! ซึ่งจุดเด่นของร้านนี้ก็คือ น้ำซุปที่ใส่สาหร่ายคมบุธรรมชาติที่ผลิตในฮอกไกโด ปลาซาบะตากแห้งและปลาอุรุเมะตากแห้งที่ผลิตในคิวชูลงไปอย่างหรูหรา ด้วยความที่ว่าน้ำซุปถือเป็นชีวิตจิตใจ เลยดูเหมือนว่าจะทำน้ำซุปขึ้นมา 1 ครั้งต่อ 30 ชามเลยทีเดียว คิสึเนะอาเกะ (ฟองเต้าหู้ทอด) เนื้อหนานุ่มที่ทำขึ้นมาอย่างดี และอุด้งโอซาก้าที่มีรสสัมผัสที่เหนียวนุ่มนั้น ต่างก็ให้กำเนิดอัตราส่วนทองคำที่แสนจะลงตัวไปพร้อมกันกับน้ำซุปสูตรลับ ขอให้ท่านได้ลองมาเพลิดเพลินไปกับคิสึเนะอุด้งที่ไม่เหมือนใครของโดตงโบริอิมาอิกันได้เลย

4. ถ้าจะมาลิ้มลองคุชิคัตสึซึ่งเป็นอาหารเกรด B ที่ไม่เหมือนใครของโอซาก้าล่ะก็ต้องที่ร้าน “ดารุมะ” เลย

photo by arsw103   /   embedded from Instagram

คุชิคัตสึ (อาหารชุปแป้งทอดเสียบไม้) นั้นกล่าวกันว่าเริ่มต้นขึ้นมาจากในช่วงต้นยุคโชวะที่กรรมกรผู้ใช้แรงงานได้มายืนกินกันตามเคาน์เตอร์ แต่ว่าในปัจจุบันนี้ คุชิคัตสึก็ได้กลายมาเป็นอาหารเกรด B (อาหารรสอร่อยแต่มีราคาถูกไม่หรูหรา) ที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นตัวแทนของโอซาก้าได้เลย และยังเพลิดเพลิดไปด้วยกันได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่อีกด้วย แล้วด้วยความที่มีกฎเฉพาะในโอซาก้าที่ว่า “ห้ามจิ้มซอสสองครั้ง” อยู่ด้วย ฉะนั้น ขอให้รักษากฎแล้วสั่งคุชิคัตสึมาทานกันให้เต็มที่ไปเลย!

ถ้าพูดถึงคุชิคัตสึในโอซาก้าแล้วล่ะก็ ร้านที่มีชื่อเสียงโด่งดังก็คือร้าน “ดารุมะ” การที่สามารถทานได้เรื่อย ๆ โดยไม่แน่นท้องด้วยความพิถีพิถันในเรื่องแป้งที่นำมาเคลือบและน้ำมันนั้น ถือเป็นจุดเด่นของคุชิคัตสึของที่นี่เลย ราคาก็มีตั้งแต่ 100 เยนขึ้นไปและยังมีหลายชนิด จึงสามารถเพลิดเพลินไปกับเลือกทานได้อีกด้วย ซอสสูตรออรอจินัลของที่นี่ก็แน่นอนว่าห้ามจิ้มสองครั้ง! ขอให้จิ้มซอสให้เต็มที่แล้วค่อยนำมาทานกันนะ

5. “โซระ” ร้านยอดนิยมในสึรุฮาชิที่มีร้านเนื้อย่างในโอซาก้ามารวมตัวกัน

photo by potatochips0118   /   embedded from Instagram

เนื่องจากว่าที่โอซาก้านั้นมีสึรุฮาชิซึ่งเป็นโคเรียนทาวน์ จึงมีร้านเนื้อย่างตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งไม่ว่าจะร้านไหน ๆ ก็จะสามารถเลือกทานเนื้อวัวในหลากหลายส่วนได้ในรูปแบบต่าง ๆ อีกทั้งยังมีร้านที่สามารถทานเนื้อวัวญี่ปุ่นคุณภาพดีและสดใหม่ในราคาถูกอยู่อีกมากมาย จึงคึกคักไปด้วยผู้คนจำนวนมากมายอยู่ในทุก ๆ วัน

ร้านเครื่องในเนื้อย่างแนะนำที่ตั้งอยู่ในสึรุฮาชิ โคเรียนทาวน์แห่งโอซาก้านั้นก็คือร้าน “โซระ” นั่นเอง ร้านนี้ขึ้นชื่อว่ามีเมนูเครื่องในที่ไม่สามารถหาทานจากที่อื่นได้ แล้วยังมีมากมายหลายชนิดจนต้องรู้สึกตะลึงเลยทีเดียว ราคาก็ประมาณครึ่งหนึ่งของร้านอื่น ๆ เท่านั้น การที่สามารถเพลิดเพลินไปกับเครื่องในที่หลากหลายได้ก็ถือเป็นจุดที่น่าดีใจ มาดื่มด่ำไปกับคุณภาพอันท้วมท้นที่สมราคาสมกับความเป็นโอซาก้ากันให้เต็มที่เถอะ!

6. ถ้าจะลิ้มลองราเม็งที่สมกับเป็นโอซาก้าก็ต้องที่ร้าน “โดตงโบริ คามุคุระ”

photo by yunas_travels   /   embedded from Instagram

ในปัจจุบันโอซาก้านั้นถือว่าเป็นแดนกำเนิดราเม็งกึ่งสำเร็จรูปในญี่ปุ่นที่มีผู้คนเลือกทานจากทั่วโลก แต่ว่าจุดเด่นของราเม็งโอซาก้านั้นไม่มีสไตล์ที่กำหนดตายตัวเป็นพิเศษเหมือนอย่างเช่นพื้นที่อื่น ๆ ฉะนั้น ขอให้ท่านได้ลองมาเดินทานราเม็งต่าง ๆ ในสไตล์โอซาก้าที่ไม่มีรูปลักษณ์ที่ตายตัวกันได้เลย

และที่สำคัญ ร้านราเม็งร้านหนึ่งในบรรดาร้านที่มีอยู่มากมายในโอซาก้าที่เราอยากจะแนะนำเป็นพิเศษ ก็คือร้าน “โดตงโบริ คามุคุระ” นั่นเอง ซุปของร้านคามุคุระที่เชฟชาวฝรั่งเศสเป็นผู้สร้างสรรค์ขึ้นมานั้น ทำให้เราสัมผัสได้ถึงความหวานของผัก ตัวซุปนั้นมีรสอ่อนที่มีโชยุเป็นหลัก และยังใส่ผักกาดขาวไว้อย่างเต็มเปี่ยมจึงดีต่อสุขภาพมาก ๆ อีกทั้งร้านยังเปิดให้บริการในตอนกลางคืนด้วย ฉะนั้นแม้อยากจะทานอะไรทิ้งท้ายหลังจากการดื่มเหล้า ราเม็งของที่นี่ก็ยังเหมาะสมที่สุด ขอให้ท่านได้มาลิ้มลองกันดูสักครั้ง

7. “ร้านคิวยามุเท” ที่สามารถเพเลิดเพลินไปกับแกงกะหรี่ที่มีรสชาติหลากหลายได้

photo by sturmedge   /   embedded from Instagram

ที่โอซาก้านั้นมีร้านแกงกะหรี่อยู่มากมายจนน่าตกใจ ถึงขนาดที่ว่าในย่านออฟฟิศมีเขตสมรภูมิของร้านแกงกะหรี่ที่มารวมตัวกันอย่างหนาแน่นเลยทีเดียว ด้วยเหตุนั้นเอง ร้านแกงกะหรี่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะสไตล์อาหารตะวันตก สไตล์ศรีลังกา หรือสไตล์เครื่องเทศอันเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น ต่างก็เปิดร้านมาแข่งขันกัน ขอให้ท่านได้ลองมาสัมผัสประสบการณ์การทานแกงกะหรี่ที่วิวัฒนาการมาแล้วในโอซาก้ากันได้เลย

ซึ่งร้านแกงกะหรี่ยอดนิยมในบรรดาร้านที่มีอยู่มากมายในโอซาก้า ก็คือร้าน “คิวยามุเท” นั่นเอง ซึ่งร้านนี้เป็นร้านที่ทำการรีโนเวตมาจากอาคารเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในย่านช้อปปิ้งที่มีมาแต่เก่าก่อนในโอซาก้า แกงกะหรี่สูตรยาจีนที่ไม่ใช้แป้งสาลีในการทำเลยแม้แต่นิดเดียวนั้น มีรูส์ (ส่วนผสมแป้งและไขมันที่นำไปทำให้สุก ทำให้ผงกะหรี่เกาะตัวเข้มข้นขึ้น) ที่มีรสเผ็ดและไม่ข้นจนเกินไปเป็นจุดเด่น แล้วการที่สามารถนำแกงกะหรี่ 2 ชนิดจากชนิดที่มีอยู่มากมายมาทานด้วยกันได้ ก็ถือเป็นจุดที่น่าดีใจมาก ๆ เนื้อสัตว์ที่ใช้ก็มีตั้งแต่เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อเป็ด ไปจนถึงเนื้อแกะเลยทีเดียว ผักก็จัดเตรียมไว้มากมายตามฤดูกาล ขอให้ท่านได้มาลิ้มลองกันดูในหลาย ๆ รสชาติกันได้เลย

8. “ร้านซูชิเท็ตสึ” ที่สามารถทานซูชิแบบไม่อั้นตามใจชอบได้เลย

photo by hiko1877   /   embedded from Instagram

แม้ว่าอาจจะท่านที่คิดว่า “ซูชิ = ซูชิสไตล์เอโดะ” อยู่ไม่น้อยก็จริง แต่ที่จริงแล้วประวัติความเป็นมาของซูชิที่โอซาก้านั้นมีความเก่าแก่ยิ่งกว่าโตเกียวเสียอีก ซูชิของโอซาก้านั้นมีคุณภาพที่สมราคามาก ๆ และยังมากมายหลายหน้า รวมถึงหน้าซูชิที่ใหญ่ซึ่งไม่สามารถลิ้มลองจากที่โตเกียวได้อีกด้วย ขอให้ท่านหาโอกาสมาลิ้มลองซูชิที่ต้องมาสัมผัสจากที่นี่เท่านั้นกันได้เลย

และที่สำคัญ ร้านซูชิในโอซาก้าที่ทางเราอยากจะแนะนำเป็นพิเศษก็คือร้าน “ซูชิเท็ตสึ” นั่นเอง ซึ่งที่ร้านนี้เป็นร้านสุดยอดแห่งความคุ้มที่สามารถสั่งซูชิ 1 คัง (40 – 50 กรัม ประมาณได้เป็นนิกิริซูชิ 2 ชิ้น) ซึ่งพ่อครัวหน้าเคาน์เตอร์เป็นคนปั้นได้ในราคาเพียง 108 เยนเท่านั้นเอง! ไม่เพียงแค่นั้น ที่ร้านนี้ยังมีคอร์สกินไม่อั้นในราคา 3,500 เยนอีกด้วย ซึ่งเป็นคอร์สที่สามารถทานซูชิที่ปั้นมาแล้วได้อย่างไม่อั้นภายในเวลา 90 นาที ขอให้ท่านได้มาเพลิดเพลินไปกับซูชิได้แบบไม่อั้น แล้วเลือกทานหน้าที่ท่านชื่นชอบได้อย่างที่ท่านชอบใจกันได้เลย

9. “ร้านฮคเคียคุเซ” ที่สามารถมาดื่มด่ำรสชาติของผู้ให้กำเนิดข้าวไข่เจียวได้

photo by yutasora0306   /   embedded from Instagram

ในช่วงต้นยุคโชวะ โอซาก้าได้ก้าวเข้าสู่ “ยุคไดโอซาก้า” ในฐานะเมืองใหญ่ที่มีความทันสมัย แล้วได้แสดงให้เห็นถึงความคึกคักอันเป็นที่หนึ่งในญี่ปุ่น ในช่วงที่ตัวเมืองได้มีการปลูกสร้างห้างสรรพสินค้าและอาคารในสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ขึ้นมาเรื่อย ๆ นั้น ข้าวไข่เจียว (ออมไรซ์) ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นที่โอซาก้า ข้าวไข่เจียวนั้นเป็นอาหารตะวันตกที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นซึ่งได้ใส่ข้าวมันไก่ (สไตล์ญี่ปุ่น) เข้าไปในไข่เจียว แม้ในปัจจุบันนี้จะได้นำมาทานกันในฐานะเมนูอาหารประจำครัวเรือนก็จริง แต่ในยุคนั้นถือว่าเป็นอาหารที่ทันสมัยมาก ๆ เลย ขอให้ท่านมาลิ้มลองรสสัมผัสของไข่ที่นุ่มฟูในขณะที่คิดถึงยุคนั้นไปพลาง ๆ กันได้เลย

ซึ่งถ้าจะมาทานข้าวไข่เจียวของโอซาก้านั้น เราก็มีร้านที่อยากแนะนำให้แวะไปให้ได้ นั่นก็คือ “ร้านฮคเคียคุเซ” นั่นเอง ในช่วงปี 1925 ช่วงที่ร้านนี้เคยเป็นร้านอาหารตะวันตก ได้กล่าวกันว่าการที่ทางร้านนำไข่เจียวและข้าวมาผสมเข้าด้วยกันเสิร์ฟให้กับลูกค้าขาประจำนั้นถือเป็นจุดเริ่มต้นของข้าวไข่เจียว ซึ่งร้านสาขาที่ตั้งอยู่ที่ชินไซบาชินั้น เป็นอาคารสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ๆ ที่สร้างขึ้นในช่วงปีโชวะที่ 25 (ปี 1950) ซึ่งเป็นร้านที่แปลกมากที่สามารถมาเพลิดเพลินไปกับอาหารตะวันตกในอาคารสไตล์ญี่ปุ่นได้ ขอให้ท่านได้มาเพลิดเพลินไปกับรสชาติที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อก่อนเลยได้ที่โอซาก้าแห่งนี้

10. “สึโบรายะ” ร้านปลาปักเป้าเกรดดีที่เพราะเป็นที่โอซาก้าจึงสามารถมาลิ้มลองได้ในราคาย่อมเยา

photo by syfssyyff   /   embedded from Instagram

ปลาปักเป้าเป็นปลาที่พ่อครัวจำเป็นต้องมีใบอนุญาตการประกอบอาหารโดยเฉพาะก่อน จึงชวนให้คิดว่าราคาจะต้องแพง แต่สำหรับที่โอซาก้านั้นกล่าวกันว่ามีปลาปักเป้าถึง 60% จากทั่วประเทศถูกนำมาทานอยู่ที่นี่ แล้วสามารถเลือกทานปลาปักเป้าแสนอร่อยในราคาย่อมเยาได้อีกด้วย! ไหน ๆ ก็ถ้าได้มีโอกาสมาที่โอซาก้าแล้วก็ขอให้ได้มาลิ้มลองส่วนประกอบอาหารเกรดดีที่ปกติไม่ได้มีโอกาสทานอย่างพวก “เท็ซซะ (ซาชิมิปักเป้า)” หรือ “เท็จจิริ (หม้อไฟปักเป้า)” กันได้เลย

ซึ่งถ้าจะมาทานปลาปักเป้าที่โอซาก้านั้น ร้านยอดนิยมที่ต้องไปให้ได้เลยก็คือร้าน “สึโบรายะ” นั่นเอง ร้านนี้เป็นร้านชื่อดังที่มีป้ายโคมไฟกระดาษเป็นรูปตัวปลาปักเป้าขนาดใหญ่ยักษ์ตั้งอยู่ ที่นี่เป็นร้านปลาปักเป้าโดยเฉพาะอันดับหนึ่งในโอซาก้า ที่ให้บริการเมนูอาหารที่ทำจากปลาปักเป้าอย่างครอบคลุมทุกประเภท ตั้งแต่เมนูคลาสสิกอย่างเท็ซซะและเท็จจิริ เทมปุระและกราแตงไข่ปลา ไปจนถึงนิกิริซูชิปลาปักเป้าเลยทีเดียว! อีกทั้งยังมีเมนูสุดคุ้มอย่างพวกอาหารชุดปลาปักเป้าหม้อเล็กอยู่อีก จึงเป็นร้านชื่อดังที่สามารถมาเลือกทานปลาปักเป้าได้อย่างสบาย ๆ เลย

มาลิ้มลองสุดยอดอาหารท้องถิ่นในโอซาก้าให้เต็มที่กันเถอะ!

เป็นอย่างไรกันบ้าง? ที่โอซาก้านั้นมีร้านอาหารท้องถิ่นที่ยอดเยี่ยมที่ต้องมาทานที่นี่เท่านั้นอยู่มากมายเป็นภูเขาเลากา สมกับความที่เป็นโอซาก้า เมืองแห่งอาหารเลยใช่ไหมล่ะ และด้วยความที่เป็นโอซาก้านี่เอง จึงมีมนต์เสน่ห์ที่เหนือสิ่งอื่นใดอยู่ที่ความคุ้มราคาแบบสุด ๆ ที่สามารถมาเลือกทานของอร่อย ๆ ได้ในราคาย่อมเยามาก! ขอให้ท่านได้ใช้โอกาสในการเพลิดเพลินไปกับการเดินชมเมืองไปพร้อม ๆ กับการลิ้มลองอาหารของโอซาก้า เมืองแห่งการกินอย่างหรูอยู่อย่างยาจกกันให้เต็มที่ไปเลย