【อันดับร้านอาหารยอดนิยมในโตเกียว】บประกันความอร่อยโดยชาวญี่ปุ่น!!

เวลาไปเที่ยวที่เมืองไหนไม่ว่าใครก็ต้องอยากจะลองอาหารอร่อยประจำเมืองกันทั้งนั้น โตเกียวเป็นเมืองหลวงศูนย์กลางของญี่ปุ่นมาตั้งแต่ยุคสมัยเอโดะ จึงมีเมนูอาหารมากมายที่เป็นของอร่อยประจำถิ่นเช่น เอโดะมาเอะซูชิ หากมีโอกาสได้มาเที่ยวที่โตเกียวก็ลองแวะเวียนไปชิม ฟุคางาวะเมชิ หรือเอโดะมาเอะซูชิที่เป็นเอกลักษณ์ของโตเกียวดูหน่อยไหม

1. ฟุคางาวะเมชิ อาหารพื้นบ้านที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยเอโดะ

1. ฟุคางาวะเมชิ อาหารพื้นบ้านที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยเอโดะ
photo by motomotoshi   /   embedded from Instagram

ฟุคางาวะเมชิ (ฟุคางาวะด้ง) เป็นอาหารของชาวประมงในสมัยเอโดะที่ได้รับเลือกจากกระทรวงเกษตรให้เป็น 1 ใน 100 อาหารฟื้นบ้าน เมนูนี้เกิดขึ้นมาจากปัญญาของเหล่าชาวประมงในแถบฟุคางาวะ ที่นำหอยอาซาริและหอมยาวมาโปะหน้าบนข้าวที่หุงด้วยเต้าเจี้ยวมิโสะ หรือนำไปหุงในซุปที่ใส่โชยุ

ได้รับความนิยมจากชาวเอโดะโดยเฉพาะชาวเมืองที่ประกอบอาชีพใช้แรงงานเช่น ชาวประมงและช่างไม้เนื่องจากทำได้ง่ายมีรสชาติดี ทำให้ในยุคสมัยดังกล่าวมีร้านขายฟุคางาวะเมชิอยู่ริมทางแถบฟุคางาวะจุกุมากมาย

ในปัจจุบันย่านฟุคางาวะยังคงมีร้านที่ขายฟุคางาวะเมชิอยู่มากมาย ลองไปลิ้มรสซุปที่ได้จากหอยอาซาริและหอมยาว กับข้าวที่เต็มไปด้วยเครื่องเพื่อสัมผัสความรู้สึกและวัฒนธรรมของชาวประมงในอดีตดูไหม?

1-1. ร้านแนะนำ 1:ฟุคางาวะจุกุ สาขาหลัก

ชื่อร้าน:ฟุคางาวะตุกุ สาขาหลัก (Fukagawa Juku Honten)
ที่อยู่:1-6-7 Miyoshi, Koutou-ku, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-3-3642-7878
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟใต้ดินที่สถานี Kiyosumi Shirakawa แล้วเดินต่อ 5 นาที

1-2. ร้านแนะนำ 2:ฟุคางาวะจุกุ สาขาโทมิโอกะฮะจิมันกุ

ชื่อร้าน:ฟุคางาวะตุกุ สาขาโทมิโอกะฮะจิมันกุ (Fukagawa Juku Tomioka hachimangu-ten)
ที่อยู่:ด้านในของ Tomioka hachimangu, 1-23-11 Tomioka, Koutou-ku, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-3-5646-8678
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟใต้ดินที่สถานี Monzen Nakachou แล้วเดินต่อ 7 นาที

1-3. ร้านแนะนำ 3:ฟุคางาวะ คามะโช

ชื่อร้าน:ฟุคางาวะ คามะโช (Fukagawa Kamashou)
ที่อยู่:2-1-13 Shirakawa, Koutou-ku, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-3-3643-4053
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟใต้ดินที่สถานี Kiyosumi Shirakawa แล้วเดินต่อ 2 นาที

2. ยานางาวะนาเบะ อาหารที่จะทำให้คุณได้ลิ้มรสชาติแสนอร่อยของปลาโดะโจ

2. ยานางาวะนาเบะ อาหารที่จะทำให้คุณได้ลิ้มรสชาติแสนอร่อยของปลาโดะโจ
photo by petite_amilie   /   embedded from Instagram

ยานางาวะนาเบะคืออาหารที่ต้นปลาโดะโจและรากโกะโบปรุงรสเผ็ดหวานแล้วโรยหอมยาวลงไปก่อนจะราดไข่ที่ตีตามลงไปคลุมอีกชั้น วิธีปรุงปลาโดะโจที่จะใช้นั้นมีหลายขนานแต่ไม่ว่าจะใส่ทั้งตัวหรือตัดหัวแล้วลอกเครื่องในออกก็เรียกได้ว่าเป็นยานางาวะนาเบะทั้งนั้น ปลาโดะโจเป็นอาหารที่ให้พลังเช่นเดียวกับปลาไหล จึงมักนำมาเป็นอาหารป้องกันไม่ให้แพ้อากาศร้อนตั้งแต่สมัยเอโดะ

แต่เดิมอาหารนี้เป็นเพียงการต้นปลาโดะโจกับรากโกะโบที่เรียกว่าโดเซอุนาเบะ แต่ร้าน “ยานางาวะยะ” ที่นิฮอนบาชิได้ริเริ่มการราดไข่ลงไปจนได้ชื่อว่า “ยานางาวะนาเบะ” และถูกแยกเป็นคนละเมนุกับโดเซอุนาเบะในเวลาต่อมา

นอกจากนี้ในยุคนั้นยังแยกคำเรียกปลาโดะโจตามวิธีปรุงคือ หากกินทั้งตัวเรียกว่า “มารุ” หากแล่ก่อนเรียกว่า “นุคิ” หากมีโอกาสลองแวะเวียนชิมรสชาติอาหารที่สืบทอดกันมานานเมนูนี้เพื่อเสริมพลังให้กระชุ่มกระชวยกันหน่อยไหม!

2-1. ร้านแนะนำ 1:โดเซอุ อีดะยะ

ชื่อร้าน:โดเซอุ อีดะยะ (Dozeu Iidaya)
ที่อยู่:3-3-2 Nishi Asakusa, Koutou-ku, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-3-3843-0881
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟทสึคุบะเอกซ์เพรสที่สถานี Tahara แล้วเดินต่อ 8 นาที

2-2. ร้านแนะนำ 2:โคมะกาตะ โดเซอุ สาขาหลัก

ชื่อร้าน:โคมะกาตะ โดเซอุ สาขาหลัก (Komagata Dozeu Honten)
ที่อยู่:1-7-12 Komagata, Koutou-ku, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-3-3842-4001
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟใต้ดินที่สถานี Asakusa แล้วเดินต่อ 6 นาที

3. เอโดะมาเอะซูชิ ซูชิที่เป็นดั่งตัวแทนของญี่ปุ่น

3. เอโดะมาเอะซูชิ ซูชิที่เป็นดั่งตัวแทนของญี่ปุ่น

เอโดะมาเอะซูชิเคยเป็นอาหารจากด่วนของยุคเอโดะมาก่อน แต่เดิมซูชิที่ได้รับความนิยมคือโอชิซูชิซึ่งเป็นซูชิแบบกดทำโดยการใส่ข้าวปรุงน้ำส้มและเครื่องปรุงลงในพิมพ์แล้วจึงตัด มีแหล่งกำเนิดคือโอซาก้า ส่วนเอโดะมาเอะซูชิจะใช้การปั้นข้าวปรุงน้ำส้มแล้วจึงวางเครื่องปรุงที่อาจผ่านการต้ม ย่าง ดอง หรือของสด

แรกเริ่มคนขายจะเอาซูชิใส่กล่องขนอาหารแล้วเดินขาย ต่อมาได้เปลี่ยนไปวางขายบนแผนลอย ก่อนจะพัฒนามาเป็นร้านและทำการปั้นเมื่อได้รับออเดอร์แบบในปัจจุบัน มาญี่ปุ่นทั้งทีก็ต้องกินวุชิให้ได้! หากมีโอกาสลองแวะเวียนไปตามร้านแนะนำดูนะ

3-1. ร้านแนะนำ 1:ซูชิซันไม สาขาหลัก

ชื่อร้าน:ซูชิซันไม สาขาหลัก (Sushi Sanmai Honten)
ที่อยู่:ด้านนอกตลาดทสึกิจิ 4-11-9 Tsukiji, Chuo-ku, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-3-3541-1117
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟใต้ดินที่สถานี Tsukiji แล้วเดินต่อ 3 นาที

3-2. ร้านแนะนำ 2:ทสึคิจิ ซูชิได

ชื่อร้าน:ทสึคิจิ ซูชิได (Tsukiji Sushidai)
ที่อยู่:อาคาร 6 ด้านในตลาดทสึกิจิ 5-2-1 Tsukiji, Chuo-ku, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-3-3547-6797
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟใต้ดินที่สถานี Tsukiji แล้วเดินต่อ 3 นาที

3-3. ร้านแนะนำ 3:โยชิโนะซูชิ

ชื่อร้าน:โยชิโนะซูชิ (Yoshino Sushi)
ที่อยู่:2-21 Kandajinbocho, Chiyoda-ku, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-3-3261-2324
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟใต้ดินที่สถานี Jinbocho แล้วเดินต่อ 3 นาที

3-4. ร้านแนะนำ 4:เอโดะมาเอะซูชิ อาโอยามะซาคานะ

ชื่อร้าน:เอโดะมาเอะซูชิ อาโอยามะซาคานะ (Edomae Sushi Aoyama Sakana)
ที่อยู่:3rd Floor 6-14-1 Jingumae, Shibuya-ku, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-3-3498-3750
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟใต้ดินที่สถานี Meiji Jingu Mae แล้วเดินต่อ 5 นาที

4. คันโตดาคิโอเด้ง รสชาติที่แตกต่างจากถื่นอื่น

4. คันโตดาคิโอเด้ง รสชาติที่แตกต่างจากถื่นอื่น

โอเด้งของญี่ปุ่นนั้นมักมีเครื่องปรุงและรสชาติแตกต่างกันไปตามพื้นที่ แต่เดิมโอเด้งคืออาหารที่ทำจากการเอาเต้าหู้เด็นราคุ ที่เป็นการนำเต้าหู้มาราดด้วยเต้าเจี้ยวมิโสะแล้วนำไปย่าง ก่อนจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นการนำเครื่องปรุงหลายชนิดมาต้นรวมกันแล้วเรียกว่า “คันโตดาคิโอเด้ง”

ปัจจุบันสามารถหาคินโตดาคิโอเด้งกินได้ง่ายดายแม้แต่ในร้านสะดวกซื้อ แต่ไหนๆ ก็มาเที่ยวทั้งทีก็น่าจะลองไปชิมโอเด้งแบบเต็มสูตรให้สมกับมาย่านเอโดะมาเอะ

ทว่า ร้านที่ขายคันโตดาคิโอเด้งที่ใส่เครื่องปรุงที่คุ้นเคยอย่าง “กันโมะ, ชิคุวะ, เต้าหู, หัวไชเท้า” อย่างครบเครื่องนั้นหาได้ยากพอตัว ถึงอย่างนั้นก็ควรค่าแก่การลงแรงเดินทางไปลองชิมนะ

4-1. ร้านแนะนำ 1:โอเด้งคัปโป อินางาคิ

ชื่อร้าน:โอเด้งคัปโป อินางาคิ (Odenkappo Inagaki)
ที่อยู่:1-8-8 Hirakawacho, Chiyoda-ku, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-3-3230-2757
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟใต้ดินที่สถานี Nagatacho แล้วเดินต่อ 9 นาที

5. จังโกะนาเบะ อาหารที่เป็นแหล่งพลังของนักซูโม่

5. จังโกะนาเบะ อาหารที่เป็นแหล่งพลังของนักซูโม่

จังโกะนาเบะถือกำเนิดขึ้นมาในช่วงปลายของยุคเมจิ เรียกได้ว่ามีประวัติยาวนานกว่าที่คิด กล่าวกันว่านักซูโม่ที่ลาวงการแล้วนำจังโกะนาเบะที่เป็นอาหารหลักของโรงฝึกซูโม่มาเป็นเมนูร้านอาหารให้คนทั่วไปได้กินกัน

อาหารประเภทหม้อไฟที่กินกันในครัวเรือทั่วไปมักเป็น “โยเสะนาเบะ” ที่ใส่เนื้อและปลารวมกัน แต่จังโกะนาเบะที่กินกันในโรงฝึกซูโม่นั้นจะไม่มีการใส่เนื้อและปลารวมกัน ทำให้จังโกะนาเบะแตกต่างจากอาหารหม้อไฟทั่วไป

จังโกะนาเบะถูกแบ่งออกเป็นสองชนิดใหญ่ๆคือ “จิริทาคิ” ที่เป็นการต้มเนื้อปลาด้วยน้ำซุปใส และ “ซปปุทาคิ” ที่ใช้เนื้อไก่เป็นส่วนประกอบหลัก แถมวิธีการต้มนั้นยังถูกกำหนดเอาไว้อย่างเป็นแบบแผนด้วย ไม่ว่าจะชนิดไหนก็มีรสชาติดีทั้งนั้น หากมีโอกาสลองมาสัมผัสประสบการณ์กินจังโกะนาเบะให้พุงกางแบบนักซูโม่ดูหน่อยเป็นไง?

5-1. ร้านแนะนำ 1:ซากะโนโบริ

ชื่อร้าน:ซากะโนโบริ (Saga Nobori)
ที่อยู่:GINZA K2 Build, 7-18-15 Ginza, Chuo-ku, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-3-3545-1233
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟใต้ดินที่สถานี Tsukiji แล้วเดินต่อ 10 นาที

5-2. ร้านแนะนำ 2:โคโตกะอุเมะ

ชื่อร้าน:โคโตกะอุเมะ (Koto ga Ume)
ที่อยู่:3-4-4 Kinshi, Sumida-ku, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-2-3624-7887
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟที่สถานี JR Kameido แล้วเดินต่อ 4 นาที

5-3. ร้านแนะนำ 3:ร้านเหล้าและหม้อไฟจังโกะ ฟุจิทากะ

ชื่อร้าน:ร้านเหล้าและหม้อไฟจังโกะ ฟุจิทากะ (Chanko Nabe Izakaya Fujitaka)
ที่อยู่:5-4-3 Sotokanda, Chiyoda-ku, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-3-5826-4810
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟใต้ดินที่สถานี Yushima แล้วเดินต่อ 6 นาที

5-4. ร้านแนะนำ 4:ร้านจังโกะ โทโมเอะกาตะ สาขาหลัก

ชื่อร้าน:ร้านจังโกะ โทโมเอะกาตะ สาขาหลัก (Chanko Tomoegata Honten)
ที่อยู่:2-17-6 Ryogoku, Chiyoda-ku, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-3-3632-5600
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟที่สถานี JR Asakusabashi แล้วเดินต่อ 4 นาที

5-5. ร้านแนะนำ 5:คุราจิ

ชื่อร้าน:คุราจิ (Kurachi)
ที่อยู่:8-4 Yochomachi, Shinjuku-ku, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-3-3357-7330
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟใต้ดินที่สถานี Higashi Shinjuku แล้วเดินต่อ 8 นาที

6. ทสึคิชิมะมอนจะ ย่างเองกินเองอาหารแห่งจิตวิญญาณประจำโตเกียว

6. ทสึคิชิมะมอนจะ ย่างเองกินเองอาหารแห่งจิตวิญญาณประจำโตเกียว

รากฐานของ “ทสึคิชิมะมอนจะ” อาหารแห่งจิตวิญญาณของชาวโตเกียวนั้นมาจากร้าน “โมจิยากิยะ” ในสมับเอโดะ โมจิยากิคือการใช้เครื่องปรุงมาเขียนเป็นตัวอักษรลงบนแป้งแล้วย่าง เรียกได้ว่าเป็นของกินที่สามารถเล่นได้อย่างสนุกสนาน

ต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลงชื่อเรียกไปมาแต่ก็ได้รับความนิยมในหมู่ชาวเอโดะเรื่อยมา วิธีการปรุงโดยผสมเครื่องปรุงเข้ากับแป้ง สร้างขอบเขื่อนบนเตาแล้วใช้ที่ย่างตักกินแบบในปัจจุบันนั้นกล่าวกันว่ามีที่มาจากแถบอาซาคุสะ

ย่านทสึคิชิมะในปัจจุบันนั้นมีร้านมอนจะยากิอยู่มากมายเรียงรายอยู่จนได้ชื่อว่า “มอนจะยากิสตรีท” เลยทีเดียว หากอยากลองชิมมอนจะยากิก็ลองแวะไปที่ทสึคิชิมะดูสิ

6-1. ร้านแนะนำ 1:ทสึคิชิมะ โคะมาจิ

ชื่อร้าน:ทสึคิชิมะ โคะมาจิ (Tsukishima Komachi)
ที่อยู่:3-20-4 Tsukishima, Chuo-ku, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-3-3531-1239
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟที่สถานี JR Tsukishima แล้วเดินต่อ 4 นาที

6-2. ร้านแนะนำ 2:ต้นตำรับทสึคิชิมะมอนจะ อิโรฮะ สาขาหลัก

ชื่อร้าน:ต้นตำรับทสึคิชิมะมอนจะ อิโรฮะ สาขาหลัก(Ganso Tsukishima Monja Iroha Honten)
ที่อยู่:3-4-5 Tsukishima, Chuo-ku, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-3-3531-1668
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟที่สถานี JR Tsukishima แล้วเดินต่อ 6 นาที

6-3. ร้านแนะนำ 3:ทสึคิชิมะมอนจะ ทสึคุชิยะ

ชื่อร้าน:ทสึคิชิมะมอนจะ ทสึคุชิยะ (Tsukishima Monja Tsukushiya)
ที่อยู่:3-16-10 Tsukishima, Chuo-ku, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-3-3531-0792
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟที่สถานี JR Tsukishima แล้วเดินต่อ 7 นาที

6-4. ร้านแนะนำ 4:มอนจะ ฮิโระ สาขาหลัก

ชื่อร้าน:มอนจะ ฮิโระ สาขาหลัก (Monja Hiro Honten)
ที่อยู่:3-12-7 Tsukishima, Chuo-ku, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-3-5560-6732
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟที่สถานี JR Tsukishima แล้วเดินต่อ 7 นาที

6-5. ร้านแนะนำ 5:มอนจะ ฮาซามะ

ชื่อร้าน:มอนจะ ฮาซามะ (Monja Hazama)
ที่อยู่:3-17-8 Tsukishima, Chuo-ku, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-3-3534-1279
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟที่สถานี JR Tsukishima แล้วเดินต่อ 8 นาที

6-6. ร้านแนะนำ 6:ทสึคิชิมะมอนจะ วาราชิเบะ

ชื่อร้าน:ทสึคิชิมะมอนจะ วาราชิเบะ (Tsukishima Monja Warashibe)
ที่อยู่:1-20-5 Tsukishima, Chuo-ku, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-3-3534-2929
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟที่สถานี JR Tsukishima แล้วเดินต่อ 5 นาที

7. อุนางิคาบะยากิ ปลาไหลย่างที่อัดแน่นไปด้วยเคล็ดวิชาของผู้เชี่ยวชาญและได้รับการยกย่องอย่างมากจากทั่วโลก

7.  อุนางิคาบะยากิ ปลาไหลย่างที่อัดแน่นไปด้วยเคล็ดวิชาของผู้เชี่ยวชาญและได้รับการยกย่องอย่างมากจากทั่วโลก

หากพูดถึงปลาไหลผู้คนก็มักจะนึกถึงปลาไหลของฮามามัติสึ จังหวัดชิซุโอกะที่โด่งดัง แต่ “เอโดะมาเอะอุนากิ” ของโตเกียวเองก็รสดีไม่แพ้กัน วิธีการย่างปลาไหล (คาบะยากิ) ของแถบคันไซนั้นจะผ่าปลาไหลฝั่งท้องแล้วย่างโดยไม่จิ้มน้ำจิ้ม แต่ทางเอโดะมาเอะจะผ่าปลาไหลจากด้านหลังแล้วจิ้มน้ำจิ้มย่าง

เหตุผลที่ทางเอโดะมาเอะผ่าปลาไหลด้านหลังก็เพราะมีตระกูลนักรบอาศัยอยู่เยอะ จึงไม่นิยมการผ่าฝั่งท้องที่ดูเหมือนกับการฮาราคิริ ในอดีตปลาไหลย่างแบบคาบะยากิที่นิยมกินกันจะถูกผ่าเป็นปล้อง หรือใช้ปลาไหลขนาดเล็กมาเสียบไม้ย่างทั้งตัวแล้วปรุงรสด้วยเต้าเจียวมิโสะหรือน้ำส้มสายชู

ปัจจุบันอาหารจากปลาไหลของโตเกียวนั้นได้รับการประเมินค่าอย่างสูงจากทั่วโลก หากมีโอกาสก็ขอเชิญทุกท่านมาลิ้มลองรสชาติแสนอร่อยกัน

7-1. ร้านแนะนำ 1:อุนากิ คาวะเซ

ชื่อร้าน:อุนากิ คาวะเซ (Unagi Kawasei)
ที่อยู่:1-7-5 Fujimi, Chiyoda-ku, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-3-3264-7798
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟที่สถานี JR Iidabashi แล้วเดินต่อ 6 นาที

7-2. ร้านแนะนำ 2:อุระยาสุ

ชื่อร้าน:อุระยาสุ (Urayasu)
ที่อยู่:3-10-17 Hoyacho, Nishi Tokyo-shi, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-42-461-1238
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟที่สถานี Seibu-Yagisawa แล้วเดินต่อ 2 นาที

7-3. ร้านแนะนำ 3:อุนะโยชิ

ชื่อร้าน:อุนะโยชิ (Unayoshi)
ที่อยู่:Kitabatake Buid 1st Floor, 5-18-12 Toyo, Koutou-ku, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-3-3645-9136
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟที่สถานี JR Kiba แล้วเดินต่อ 2 นาที

7-4. ร้านแนะนำ 4:อิจิโนะยะ

ชื่อร้าน:อิจิโนะยะ (Ichinoya)
ที่อยู่:MKC Shinsen Heights 1st Floor, 20-22 Shinsencho, Shibuya-ku, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-3-5459-6862
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟ Keio สาย Inogashira ที่สถานี Komaba-todaimae แล้วเดินต่อ 10 นาที

7-5. ร้านแนะนำ 5:อิชิบาชิ

ชื่อร้าน:อิชิบาชิ (Ishibashi)
ที่อยู่:2-4-29 Suidobashi, Bunkyo-ku, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-3-3813-8038
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟใต้ดินที่สถานี Edogawabashi แล้วเดินต่อ 6 นาที

8. จินไดจิโซบะ อาหารรสเลิศที่ทำด้วยน้ำผุดอันอุดมสมบูรณ์

8. จินไดจิโซบะ อาหารรสเลิศที่ทำด้วยน้ำผุดอันอุดมสมบูรณ์

โซบะของญี่ปุ่นนั้มีมากมายหลายชนิด แถมยังมีกลิ่นและรสชาติแตกต่างกันไปตามพื้นที่ที่ปลูก ในบรรดาโซบะเหล่านั้น “จินไดจิโซบะ” เป็นโซบะชนิดพิเศษที่กำเนิดขึ้นมาในยุคเมจิ และสามารถกินได้เฉพาะพื้นที่ใกล้กับวัดจินไดจิเท่านั้น

จุดกำเนิดของจินไดจิโซบะนั้นกล่าวกันว่าในยุคเอโดะ พื้นที่แถบวัดจินไดจินั้นไม่เหมาะสมกับการปลุกข้าว เกษตรกรจึงหันมาปลูกโซบะกันแทน โซบะที่ถูกนำมาเก็บในวัดจินไดจิจะถูกสีและนำไปทำแป้งโซบะให้กับแขกผู้มาเยือน

เหตุผลที่จินไดจิมีรสชาติดีกล่าวกันว่าเพราะปลุกดดยใช้น้ำผุดของวัดจินไดจิที่มีแร่ธาตุอยู่มาก ในปัจจุบันรอบๆ วันจินไดจิมีร้านโซบะอยู่มากกว่า 20 ร้านรอให้บริการนักท่องเที่ยวที่แวะมาเยือน หกคุณมีโอกาสก็ขอให้ลองแวะเวียนไปลิ้มรสโซบะญี่ปุ่นอันแสนจะลุ่มลึกดูสักครั้ง

8-1. ร้านแนะนำ 1:จินไดจิโซบะ มารุโยะ

ชื่อร้าน:จินไดจิโซบะ มารุโยะ (Jindaiji Soba Maruyo)
ที่อยู่:4-9-11 Tsukiji, Chuo-ku, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-3-3542-1777
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟใต้ดินที่สถานี Tsukiji แล้วเดินต่อ 4 นาที

8-2. ร้านแนะนำ 2:จินไดจิ

ชื่อร้าน:จินไดจิ (Jindaiji)
ที่อยู่:5-15-1 Jindaiji Motomachi, Chofu-shi, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-42-486-5511
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟ Keio ที่สถานี Chofu แล้วนั่งรถบัส 7 นาทีลงที่ทางเข้าจินไดจิ (Jindaiji Iriguchi) แล้วเดินต่อ 7 นาที

8-3. ร้านแนะนำ 3:ร้านอาหารญี่ปุ่น จินไดจิ ซุยจินเอน

ชื่อร้าน:ร้านอาหารญี่ปุ่น จินไดจิ ซุยจินเอน (Nihonryori Jindaiji Suijin-en)
ที่อยู่:5-10-3 Jindaiji Motomachi, Chofu-shi, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-42-486-0811
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟ Keio ที่สถานี Chofu แล้วนั่งรถบัส 7 นาทีลงที่ทางเข้าจินไดจิ (Jindaiji Iriguchi) แล้วเดินต่อ 7 นาที

9. อันมิตสึ ขนมหวานที่กินถั่วแดงกวนพร้อมวุ้นคุซุคิริ

9. อันมิตสึ ขนมหวานที่กินถั่วแดงกวนพร้อมวุ้นคุซุคิริ

ในยุคสมัยเมจิ ญี่ปุ่นได้เริ่มเปิดรับวัฒนธรรมจากต่างประเทศและหนึ่งในนั้นคือการราดน้ำเชื่อมลงบนผลไม้ที่เรียกว่า “มิตสึมาเมะ” ซึ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในยุคสมัยนั้น

ในเวลาต่อมา เจ้าของรุ่นที่สองของร้าน “กิงซ่าวาคามัตสึ” ที่เป็นร้านเก่าแก่ตั้งแต่สมัยเมจิได้คิดค้นเมนูของหวานโดยการนำ “อัน” ที่เป็นขนมถั่วแดงกวนมาราดลงบนมิตสึมาเมะ อันเป็นจุดเริ่มต้นของ “อันมิตสึ” ที่เป็นของหวานที่ได้รับความนิยมเรื่อยมาของเอโดะมาเอะ

ปัจจุบันร้านวาคามัตสึยังคงตั้งอยู่ในตำแหน่งเดิมตั้งแต่ยุคเมจิและเสิร์ฟแนมิตสึให้ลูกค้าได้ลิ้มรสเรื่อยมา หากมาเที่ยวโตเกียวแล้วอยากหากที่แวะพักเนื่อยสักหน่อย ลองแวะกินอันมิตสึดูหน่อยไหม?

9-1. ร้านแนะนำ 1:อันมิตสึมิฮาชิ สาขาหลัก

ชื่อร้าน:อันมิตสึมิฮาชิ สาขาหลัก (Anmitsu Mihashi Honten)
ที่อยู่:4-9-7 Ueno, Taito-ku, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-3-3831-0384
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟที่สถานี JR Ueno แล้วเดินต่อ 5 นาที

9-2. ร้านแนะนำ 2:กิงซ่าวาคามัตสึ

ชื่อร้าน:กิงซ่าวาคามัตสึ (Ginza Wakamatsu)
ที่อยู่:Core Build 1st Floor, 5-8-20 Ginza, Chuo-ku, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-3-3571-1672
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟใต้ดินที่สถานี Ginza แล้วเดินต่อ 3 นาที

9-3. ร้านแนะนำ 3:อันมิตสึ โนะ ชินโรคุโด

ชื่อร้าน:อันมิตสึ โนะ ชินโรคุโด (Anmitsu no Shinryoku-Dou)
ที่อยู่:5-27-17 Mukoujima, Sumida-ku, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-3-6658-5449
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟสาย Tokyo Sky Tree ที่สถานี Hikifune แล้วเดินต่อ 11 นาที

10. คุซุโมจิ ขนมหวานที่โปรยผงคินาโกะลงบนวุ้นคุซุคิริ

10. คุซุโมจิ ขนมหวานที่โปรยผงคินาโกะลงบนวุ้นคุซุคิริ

คุซุโมจิเป็นขนมญี่ปุ่นที่มีวิธีทำต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่น แต่เดิมคุซูโมจินั้นกำเนิดที่แถบคันไซ โดยนำรากของคุซุมาป่นให้เป็นผงแล้วนำไปใช้แทนแป้งทำขนม ส่วนทางฝั่งคันโตนั้นใช้แป้งสาลีในการทำตัวขนมแทน

คุซุโมจิที่ทำกันในช่วงปลายของสมัยเมจินั้น จะนำแป้งสาลีมาบ่มแล้วจึงเอาไปทำตัวขนมอีกที การบ่มแป้งสาลีทำให้ขนมคุซุโมจิที่ได้ออกมามีความสวยงาม เมื่อนำคุซุโมจิที่ได้มาไปโรยผงคินาโกะและน้ำเชื่อมดำก็เป็นอันเสร็จตามสไตล์คันโต

คุซุโมจิของคันไซนั้นจะเด้งสู้ฟัน ส่วนคุซุโมจิแบบเอโดะมาเอะนั้นจะเน้นความนุ่ม หากได้แวะเวียนมาก็ลองชิมรสชาติของคุซุโมจิที่นี่ดูหน่อยเป็นไง?

10-1. ร้านแนะนำ 1:คิโนะเซน

ชื่อร้าน:คิโนะเซน (Ki no Zen)
ที่อยู่:1-12 Kagurazaka, Shinjuku-ku, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-3-3269-2920
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟที่สถานี JR Iidabashi ออกทางออกตะวันตก หรือทางออกรถใต้ดิน B3 แล้วเดินต่อ 2 นาที

10-2. ร้านแนะนำ 2:คัตสึคิจิ ตึกชินมารุ

ชื่อร้าน:คัตสึคิจิ ตึกชินมารุ (Katsukichi Shinmaru Build)
ที่อยู่:Shinmaru Build 5th Floor, 1-5-1 Maru no Uchi, Chiyoda-ku, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-3-3211-6655
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟที่สถานี JR Tokyo ออกทางมารุโนะอุจิทิศเหนือ (Maru no Uchi Kita-guchi) แล้วเดินต่อ 1 นาที

10-3. ร้านแนะนำ 3:ร้านอิชินาเบะคุซุโมจิ

ชื่อร้าน:ร้านอิชินาเบะคุซุโมจิ (Ishinabe Kuzumochi Ten)
ที่อยู่:1-5-10 Kishimachi, Kita-ku, Tokyo-to
เบอร์โทรศัพท์:+81-3-3908-3165
วิธีเดินทาง:ลงรถไฟที่สถานี JR Oji แล้วเดินต่อ 6 นาที

มาลองลิ้มรสอาหารอร่อยประจำถิ่นของโตเกียวกันเถอะ!

เป็นอย่างไรกันบ้าง? ที่โตเกียวนั้นมีของอร่อยจากทั่วประเทศมารวมตัวกันทำให้อาหารส่วนใหญ่มีรสชาติที่ดี แต่ได้มาเที่ยวทั้งทีก็ต้องอยากลองชิมอาหารที่เป็นของต้นตำรับของที่นั้นๆ กันสิ หากได้มาโตเกียวก็ลองหาโอกาสไปชิมอาหารที่หากินได้เฉพาะที่นี่กันดูเถอะ แล้วคุณจะได้พบกับรสชาติใหม่ๆ ที่ไม่เคยลิ้มลองมาก่อนแน่นอน

กด『ถูกใจ』
หากคุณชอบบทความนี้
ส่งทุกข้อมูลล่าสุดจาก SeeingJapan ถึงมือคุณ


อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม



บทความยอดนิยมในหมวดหมู่เดียวกัน


ผู้เขียนบทความ