【อันดับร้านอาหารยอดนิยมในนารา】บประกันความอร่อยโดยชาวญี่ปุ่น!!

นาราเป็นเมืองหลวงขนาดใหญ่แห่งแรกของญี่ปุ่นที่สร้างอย่างมีแบบแผนโดยใช้เมืองเฉิงอัน เมืองหลวงของจีนในยุคสมัยเดียวกัน (ราว ค.ศ. 710) เป็นแบบ นับตั้งแต่นั้นมานาราก็ให้ความสำคัญกับประวัติศาสตร์ รวมไปถึงวัฒนธรรมต่างๆ เช่นการกินด้วย หากเทียบกับ โอซาก้าเมืองแห่งการกินอย่างสนุก หรือเกียวโตเมืองแห่งการกินที่เลิศรสแล้วนาราอาจจะดูไม่โดดเด่นมากนัก แต่ที่แห่งนี้ถือได้ว่าเป็นอาหารที่เป็นรากฐานของวัฒนธรรมการกินของญี่ปุ่นได้ทีเดียว เราจึงจะขอแนะนำอาหารอร่อยประจำถิ่นของนาราให้คุณได้ทราบกันในโอกาสนี้

1. หากอยากชิมอาสึกะนาเบะอาหารที่สืบทอดกันมาของนาราต้องร้านเซ็น (Zen)

photo by wakamiyake   /   embedded from Instagram

อาสึกะนาเบะที่เป็นหม้อไฟชื่อดังของเมืองนารานั้นใช้นมวัวเป็นวัตถุดิบหลักของซุป ปรุงรสเพิ่มด้วยโชยุรสอ่อน แล้วใส่เครื่องปรุงอื่นๆ เช่น เนื้อไก่ลงไปต้น ก่อนจะเทนมตามลงไป คุณรู้หรือไม่ว่าทำไมที่นาราถึงมีหม้อไฟใส่นม? ว่ากันว่าในอดีตมีฑูตจากจีนราชวงศ์ถังได้นำสูตรอาหารจากนมวัวมาเผยแพร่ให้เหล่าพระในวัวเมียวยาคุจิแอบต้มเนื้อไก่กินกัน จึงเป็นที่มาของอาสึกะนาเบะของขึ้นชื่อของนาราในปัจจุบัน

หากอยากลองชิมอาสึกะนาเบะแสนอร่อยก็ต้องมาที่ร้านเซ็น (ZEN)! ร้านแห่งนี้อยู่ติดกับสถานีนารา และมีอาสึกะนาเบะที่ปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัยให้คุณได้ลิ้มลอง โดยใช้นมเป็นวัตถุดิบหลักต้มเนื้อไก่ที่เลือกสรรมาอย่างดีกับลูกชิ้นกระดูกไก่อ่อนตำรับเฉพาะของร้านให้คุรได้กินจนอิ่ม

นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารไก่บ้านยามาโตะ (ยามาโตะจิโดริ) และเมนูของดีของนาราให้ได้ชิมกันอีกเพียบ! ยิ่งเมนูมื้อกลางวันนั้นยิ่งคุ้มราคามาก หากมีโอกาสลองแวะเวียนมาสัมผัสอาหารที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานจานนี้ดูหน่อยไหม?

2. ซูชิห่อใบพลับชื่อดังและมีประวัติศาสตร์ยาวนานของร้านซูชิห่อใบพลับร้านหลัก ทานากะ สาขานารา (Kaki no Ha Sushi Honpo Tanaka Nara Honten)

photo by elica1130   /   embedded from Instagram

ย่านโยชิโนะในจังหวัดนาราเป็นสถานที่กำเนิดของ “ซูชิห่อใบพลับ” ในยุคสมัยที่ยังไม่สามารถเก็บรักษาอาหารได้ดีนักนั้น อาหารทะเลที่สามารถขนส่งมาถึงนาราที่รายล้อมไปด้วยภูเขาได้นั้นมีความสำคัญมาก ทำให้เกิดซูชิห่อใบพลับ ที่นำปลาหมักเกลือวางไว้บนข้าวห่อด้วยใบพลับภูเขาก่อนจะทับด้วยหินเพื่อบ่มขึ้นมา

อาหารนี้เคยเป็นเมนูสำหรับฉลองวันสำคัญในอดีตกาล ใบพลับที่ใช้ห่อนั้นมีวิตามินซี และแทนนินที่ช่วยในการฆ่าเชื้อโรคอยู่ ข้าวซูชิเองก็ช่วยป้องกันไม่ให้อาหารแห้งเกินไปจึงสามารถเก็บรักษาได้เป็นเวลานาน หากมีโอกาสขอให้คุณลองมาชิมซูชิห่อใบพลับที่เกิดมาจากสติปัญญาของผู้คนในอดีตดูสิ

หากอยากลองชิมซูชิห่อใบพลับขึ้นมาแล้ว ขอแนะนำให้ไปที่ร้านซูชิห่อใบพลับร้านหลัก ทานากะ สาขานาราได้เลย! ร้านสาขานี้เป็นสาชาหลักที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟนาราของรถไฟสายคินเท็ตสึ นอกจากซูชิห่อใบพลับที่เป็นของดังแลวยังมีซูชิตำรับร้านทานากะอีกมากมายรอให้คุณไปชิมที่ร้าน “”คาคิโนะจะยะ”” ที่อยู่ติดกันด้วย มาเที่ยวนาราแล้วก็ชิมซูชิห่อใบพลับพร้อมจิบชาอุ่นๆ หน่อยเป็นไง?

3. หากอยากลองชิมโซเม็งยืดเส้นด้วยมือจากถิ่นกำเนิดต้องร้านโซเม็ง มิวะจะยะ (Soumendokoro Miwachaya)

photo by kopin1   /   embedded from Instagram

ย่านมิวะที่อยู่ในเมืองซากุไรจังหวัดนารามีของขึ้นชื่อคือโซเม็งยืนดเส้นด้วยมือ “เทะโนเบะ โซเมน” ที่ย่านนี้มีศาลเจ้าโอมิวะ (โอมิวะจินจะ) ที่ได้ชื่อว่าเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นอยู่ และกล่าวกันว่าเป็นสถานที่ที่พระเจ้าลงมาสั่งให้มนุษยืเริ่มทำโซเม็งขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อประมาณ 1,300 ปีก่อน วิธีการยืดเส้นด้วยมือนั้นถูกคิดค้นขึ้นมาในช่วงที่อากาศหนาวจัด จึงทำให้เส้นมีความเหนียวเด้งสู้ฟันและไม่ยุ่ยเมื่อนำไปต้ม! หากได้มาที่นาราก็ควรจะแวะมาลองชิมรสชาติขนานแท้สักครั้ง

มิวะโซเม็ง ยามาโมโตะ เป็นร้านที่ขึ้นชื่อในหมู่ร้านโซเม็งมากมาย ก่อตั้งมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1717 วิธีการยืดเส้นที่พัฒนามาจนถึงขีดจำกัดทำให้เส้นของร้านนี้เรียวเล็กกว่าร้านอื่นๆ แต่ความเหนียวเด้งสู้ฟันของเส้นนั้นไม่แพ้ที่ไหนๆ

“ร้านโซเม็งมิวะจะยะ” ตั้งอยู่ในร้านสาขาหลังของที่นี่และจะให้คุณได้ชิมโซเม็งที่ยืดเส้นกันสดๆ ตรงนั้นเลย แถมยังมีเมนูเป็นเซ็ตคู่กับซูชิห่อใบพลับหรือคุซุโมจิแสนคุ้มเตรียมไว้ให้คุณได้ลองด้วย

4. ชิมมิคาสะยากิที่เคี้ยวเพลินเกินห้ามใจที่ร้านขนม มันโชโด (Onkashi Tsukasa Manshoudou)

photo by marronpd   /   embedded from Instagram

มิคาสะยากิขนมญี่ปุ่นที่นำไว้ถั่วแดงมาประกบด้วยแพนเค้กที่ทอดให้บางๆ หรือที่รู้จักกันในชื่อทั่วไปว่า “โดรายากิ” นั่นเอง โดรายากินนั้นสามารถหากินได้ทั่วญี่ปุ่น แต่ที่นารานั้นถูกเรียกว่ามิคาสะยากิเพราะว่ารูปร่างของภูเขามิคาสะนั้นคล้ายกับโดรายากินั่นเอง

ที่น่าจับตามองเป็นพิเศษคือขนาดของมันที่มีอยู่หลากหลาย! โดยเฉพาะ “จัมโบ้มิคาสะยากิ” ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 20 เซนติเมตร! แค่ดูก็ทำเอาอิ่มกันเลยทีเดียว

ร้านขนมมันโชโด เป็นร้านเก่าแก่ที่อยู่ใกล้สถานีนารา มิคาสะยากิของมันโชโดนั้นเลือกใช้แป้งสาลีและไข่ชั้นดีมาทอดให้ฟูนุ่ม เมื่อทอดได้ที่แล้วจึงเอาแป้งมาประกบไส้ถั่วแดงกินกันร้อนๆ ต่อไป ร้านนี้มีมิคาสะตั้งแต่ขนาดทั่วไปจนถึงขนาดใหญ่รอให้คุณมาชิมหรือซื้อกลับไปเป็นของฝากอยู่นะ

5. กินข้าวต้มชาพลางดูกวางที่โทโนะจะยะ (Tou no Chaya)

photo by toujibykouhou1306   /   embedded from Instagram

“ย่านยามาโตะที่อยู่กลางเมืองนารา มี “ข้าวต้มชา” เป็นอาหารขึ้นชื่อที่กินกันมายาวนานกว่า 1,200 ปี นาราเป็นเมืองที่มีวัดอยู่มากมายทำให้ข้าวต้มชาที่เป็นอาหารหลักของพระเช่น “ข้าวต้มชายามาโตะ” ได้รับความนิยมกินจากประชาชน วิธีทำก็ไม่ยากเพียงหุงข้าวโดยใช้น้ำชาเท่านั้น จุดเด่นของข้าวต้มชาคือมีน้ำเนอะและไม่เหนียว เพราะไม่ต้มนานเกินไปทำให้ข้าวพองนุ่มแต่ร่วนกินง่าย

ร้าน “โทโนะจะยะ” เป็นร้านที่เราจะแนะนำให้คุณไปลองชิมข้าวต้นชา ร้านดังกล่าวตั้งอยู่ทางตะวันออกของหอคอยห้าชั้นในวัดโคฟุคุจิ ข้าวต้มชาที่ได้รับความนิยมมากขของร้านนี้คือข้าวต้มหุงโดยใช้ชาเขียว แถมร้านนี้ยังอยู่ในสวนสาธารณะนารา ทำให้สามารถนั่งดูกวางจากในร้านได้ด้วย

เมนูของร้านได้แก่ เบนโตข้าวต้มชา (2,000 เยน), อาหารชุดไคเซกิ ข้าวต้มชา (เริ่มต้นจาก 5,000 เยน) ให้เลือกขิม เพิ่มความคุ้มค่าด้วยผักสดที่ผลิตในท้องที่ต้ม และเต้าหู้งา (โกมะโทฟุ) เป็นเครื่องเคียง ลองใช้ข้าวต้มชาที่ดีต่อสุขภาพเยียวยากระเพาะที่เหนื่อยล้าจากอาหารหนักๆ ในการท่องเที่ยวดูหน่อยไหมล่ะ?

6. ชิมขนมหวานที่ใส่คุซุแท้ของโยชิโนะที่ร้านโยชิโนะฮอนคุซุ เทนเคียคุโด สาขาหลักนารา (Yoshino Honkuzu Tenkyokudou)

photo by yuria47   /   embedded from Instagram

คุซุเป็นพืชที่เติบโตอยู่ทั่วไปในภูเขา คุซูแท้ตำรับโยชิโนะนั้นจะมีกรรมวิธีการผลิตคือนำรากของคุซุที่แทงลึกลงไปในดินมาซอยให้เป็นเส้นบางๆแล้วผสมกับน้ำ นวดให้แป้งที่ผสมอยู่ในรากแยกออกมาใช้ เป็นวิธีผลิตอันเป็นเอกลักษณ์ของย่านโยชิโนะ

รากคุซุ 1 กิโลกรัมจะได้แป้งคุซุออกมาประมาณ 100 กรัมเท่านั้นจึงทำให้คุซุแท้หาได้ยากมาก ซาลาเปาคุซุหรือคุซุโมจิที่ใช้แป้งคุซุแท้ทำนั้นจะนุ่มเคี้ยวมันมาก หากมีโอกาสขอให้คุณมาลองสนุกกับรสสัมผัสอันแสนสนุกนี้

ร้านเทนเคียคุโดเป็นร้านที่ผลิตแป้งคุซุเองมายาวนานกว่า 100 ปี และด้วยความเชี่ยวชาญนั้นทำให้คุซุของร้านนี้มีคุณภาพสูงและทำคอร์สอาหารจากคุซุที่ประกอบด้วยคุซุยุ, คุซุโมจิ, คุซุคิริ และเมนูอื่นๆ ที่หลากหลายให้คุรได้เพลิเพลินกับคุซุได้ ถือเป็นหนึ่งในร้านที่ห้ามพลาดเมื่อมานาราเลยทีเดียว!

7. ร้านเก่าแก่ที่ขายของดองนารามานานกว่า 400 ปี อิมานิชิ สาขาหลัก (Imanishi Honten)

photo by sassy083   /   embedded from Instagram

นาราทสึเคะ หรือของดองนาราที่กล่าวกันว่ากินกันมาตั้งแต่สมัยที่นาราเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น แต่เดิมเป็นของหายากที่จะได้กินกันเฉพาะในหมู่ชนชั้นสูงเท่านั้น ในปัจจุบันของดองนาราได้รับการสืบทอดมายาวนานกว่า 1,300 ปีนั้นถูกกินกันอย่างแพร่หลาย ฟักที่ดองในกากเหล้าสาเกอย่างประนีตตามแบบฉบับของดองนารานั้นมีรสสัมผัสที่กรุบกรอบเหมาะกับการใส่ในข้าวต้มหรือกินแกล้มเหล้ามาก!

หากคุณอยากลองของดองนาราชั้นเลิศ เราขอแนะนำให้คุณแวะมาที่ร้าน “อิมานิชิสาขาหลัก” ของดองนาราของร้านนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 400 ปี และเลือกใช้เฉพาะผักที่ปลูกในประเทศและกากเหล้าสาเกบริสุทธิ์เท่านั้น ไม่มีการใช้สารปรุงรส, สารรักษาความสด สารแต่งสีใดๆ

ปกติแล้วของดองนาราจะใช้เวลาบ่มประมาณ 6 เดือน แต่ที่ร้านนี้บ่มแตงกวาจิ๋วนานกว่า 3 ปี และบางอย่างก็บ่มนานถึง 17 ปีเลยทีเดียว ของดองนาราของร้านนี้จะมีสีดำกว่าร้านอื่น แต่แทบจะไม่มีเกลือหลงเหลืออยู่ ทำให้ได้กลิ่นของเหล้าสาเกอันลุ่มลึก เหมาะกับการเป็นกับแกล้วเหล้าญี่ปุ่นยิ่งกว่าสิ่งใด

8. ร้านที่จะให้คุณได้ลิ้มรสลูกพลับของดีประจำฤดูใบไม้ผลิ นาราโยชิโนะอิชิอิ สาขานาราซันโจโดริ (Nasa Yoshino Ishii Narasanjoudoriten)

photo by papapuir   /   embedded from Instagram

พูดถึงนาราก็ต้องนึกถึงลูกพลับตามบทกลอนไฮกุของชิกิ มาซาโอกะกวีชื่อนักของญี่ปุ่น และก็ถูกต้องตามนั้น! นาราเป็นจังหวัดที่มีปริมาณผลิตพลับที่มากและได้คุณภาพที่สุดของญี่ปุ่น สภาพภูมิอากาศและภูมิประเทศของนารานั้นเหมาะสมกับการปลูกพลับมาก ลูกพลับที่ปลูกได้มีขนาดใหญ่และรสหวาน หากไปเยือนนาราในฤดูใบไม้ร่วงก็ต้องชิมลูกพลับสด หากมาในฤดูอื่นก็ขอให้ชิมพลับแห้งหรือขนมหวานที่ทำจากพลับดู

ร้าน “นาราโยชิโนะอิชิอิ” คือร้านที่เราอยากให้คุณแวะมาเพื่อลิ้มลองขนมหวานที่ทำจากลูกพลับแสนอร่อย เมนูเด็ดของร้านคือ “คาคิโมนากะ” ที่ควักเนื้อพลับออกแล้วใส่ไส้ถั่วแดงลงไปนั้นมีรสสัมผัสที่ผสมผสานระหว่างความกรุบกรอบของเปลือกพลับและความเหนียวเคี้ยวเพลินของไส้ถั่วแดงอย่างลงตัว

คาคิโยคัง วุ้นลูกพลับที่ทำจากน้ำพลับล้วนๆ ไม่ผสมน้ำก็มีรสชาติยอดเยี่ยมมากเช่นกัน ที่ร้านนี้ยังมีขนมหวานจากลูกพลับมากมายรอให้คุณได้มาสัมผัสหรือจะซื้อกลับไปเป็นของฝาก็ไม่เลวนะ

9. คามะเมชิที่อัดแน่นด้วยของอร่อยประจำฤดูกาลที่ร้านชิซุกะ สาขาโอมิยะ (Shizuka Omiyaten)

photo by asiganoti8   /   embedded from Instagram

นารามีร้านคามะเมชิหรือข้าวอบหม้ออยู่มาก แต่ละร้านต่างแข่งขันกันด้วยเครื่องปรุงและวัตถุดิบต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบตามฤดูกาลหรือข้าวที่คัดสรรมาอย่างดี คามะเมชิที่หุงใหม่และมีข้าวไหม้ติดก้นหม้อนิดๆ นั้นอร่อยอย่าบอกใครเลย! หากอยากชิมก็ต้องเผื่อเวลาสัก 30 นาทีนะ เพราะทุกร้านจะเริ่มหุงข้าวเมื่อได้รับออเดอร์กันหมดเลย

และหากพูดถึงคามะเมชิล่ะก็ “ร้านชิสุกะ” ต้องเป็นร้านที่ผู้คนกล่าวถึงกันมากที่สุดแน่นอน! เพราะร้านแห่งนี้หุงข้าวคามะเมชิแต่ละหม้อด้วยไฟแรงอย่างบรรจงไงล่ะ

เครื่องปรุงที่ใช้ก็เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล เช่น ฤดูใบไม้ร่วงใช้เกาลัด, ฤดูหนาวใช้หอยนางรมเป็นต้น ทำให้ไม่ว่าจะมากี่ครั้งก็ยังกินได้ไม่เบื่อเลย น้ำซุปที่ใช้หุงข้าวได้มาจากการต้มกระดูกไก่กับสาหร่ายคอมบุ และการหุงอย่างประนีตทำให้ข้าวที่ได้ออกมาทุกเม็ดมีรสชาติดีเยี่ยม! แน่นอนว่าข้าวไม้ติดก้นหม้อก็อร่อยเหมือนกัน หากมีโอกาสขอเชิญให้คุณมาลองชิมคามะเมชิแสนอร่อยถูกปากคนในท้องที่แห่งนี้กันดูนะ

10. หากอยากลองเติมพลังด้วยราเม็งของนาราต้องมาไซกะราเม็ง สาขาหลัก (Saika Ramen Honten)

photo by juya_shirakaba   /   embedded from Instagram

ทั่วญี่ปุ่นมีราเม็งประจำถิ่นอยู่มากมาย แต่คุณรู้หรือไม่ว่าราเม็งของนาราเป็นอย่างไร? พูดง่ายๆ คือ “เน้นเพิ่มพลัง” ไงล่ะ! สตามิน่าราเม็ง สำหรับเพิ่มพลังจะใส่ผักกาด, กุยช่ายที่ผัดด้วยกระเทียบและเต้าเจี้ยวพริกโทบันจังเป็นเครื่องปรุงให้กับราเม็งซูปโชยุรสเผ้ดจัดจ้าน ราเม็งที่เครื่องเยอะขนาดนี้คงหาที่ไหนไม่ได้แล้ว หากกินราเม็งนี้แล้วจะต้องสดชื่นแข็งแรงมีพลังจึงเป็นที่มาของชื่อสตามิน่าราเม็งไงล่ะ

“ไซกะราเม็ง” เป็นหนึ่งในร้านราเม็งในเมืองเทนริที่กล่าวกันว่าเป็นต้นกำเนิดสตามิน่าราเม็ง ราเม็งของร้านนี้จะผัดผักกาดกับเนื้อหมู, กุยช่าย, แครอท ฯลฯ เป็นเครื่องให้กับราเม็งซุปโชยุที่ปรุงรสให้เผ็ดและเข้มข้น ความเผ็ดของซุปจะช่วยให้ร่างกายอบอุ่นเมื่อกินหมดถ้วย พอเหมาะพอเจาะกับช่วงที่อากาศหนาวอย่างยิ่ง!

หาได้กินสักครั้งหนึ่งแล้วจะต้องติดใจ ปัจจุบันก็ยังมีผู้คนจากโอซาก้าหรือเกียวโตแวะเวียนมากินกันไม่ขาดสาย! แล้วคุณล่ะไม่ลองมาชิมสตามิน่าราเม็งที่ชาวเมืองหลงใหลดูสักหน่อยหรือ?

ไปลองลิ้มชิมรสอาหารท้องถิ่นแสนอร่อยของนาราให้หมดกันเลย!

เป็นอย่างไรบ้าง? อาหารของนารานั้นมีรสชาติที่ลุ่มลึกสะท้อนประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของเมืองได้ดีเลย หากอยากลองลิ้มรสชาติที่สืบทอดมายาวนานกว่า 1000 ปีก็คงต้องมาที่นี่เท่านั้น! หากได้แวะเวียนมาภูมิภาคคันไซ ขอเชิญให้ลองมาเยี่ยมเยือนเมืองนารากันดู คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ดีๆ กลับไปแน่นอน