ห้ามพลาด ! อาหารท้องถิ่นแนะนำเมืองเกียวโตประเทศญี่ปุ่น 10 ร้านเด็ด !

เกียวโตสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่เป็นความภาคภูมิใจของประเทศญี่ปุ่น เป็นศูนย์รวมของศาสนา การเมืองและวัฒนธรรมที่มีมาแต่โบราณ ยังภาพความแตกต่างจากเมืองอื่นๆในแถบคันไซด้วยศิลปะวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ เฉกเช่นเดียวกับอาหารที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมการกินมาแต่โบราณได้อย่างเหนียวแน่น ในขณะเดียวกันก็เปิดรับวิถีการกินแบบใหม่ๆเข้ามา เราจะขอแนะนำอาหารขึ้นชื่อของเมืองที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งนี้

1. ลิ้มรสหม้อไฟเต้าหู้เกียวโตที่ร้าน “โอคุตัน สาขาวัดนันเซ็นจิ” (Okutan Nanzenji)

photo by kanichixx   /   embedded from Instagram

ตั้งแต่สมัยโบราณแล้วที่เมืองเกียวโตมีชื่อเสียงในการทำเต้าหู้ เนื่องจากมีแหล่งน้ำบาดาลที่มีคุณภาพดีมาเป็นส่วนประกอบ ซึ่งใช้น้ำกว่าครึ่งในการเตรียมวัตถุดิบ น้ำที่นี่มีความกระด้างเพียงเล็กน้อย ซึ่งเป็นตัวแปรให้เต้าหู้มีรสกลมกล่อมมากกว่าที่อื่น ด้วยความที่มีวัดวาอารามมากมายในเมืองเกียวโต เต้าหู้จึงเป็นอาหารมังสวิรัติที่นิยมรับประทานในหมู่สงฆ์สมัยก่อน แต่ปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย และเป็นที่รู้กันดีว่าเต้าหู้เป็นอาหารขึ้นชื่ออันดับหนึ่งของเมืองเกียวโต ซึ่งผู้ที่อยากลองลิ้มรสชาติที่แท้จริงของเต้าหู้ชั้นดีแล้วล่ะก็ เราขอแนะนำเต้าหู้ที่ปรุงอย่างเรียบง่ายในแบบฉบับของเมืองเกียวโต

ท่ามกลางร้านหม้อไฟที่มีมากมาย เราขอแนะนำร้านเด็ด “โอคุตัน สาขาวัดนันเซ็นจิ” ที่ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 1635 และอยู่คู่เมืองเกียวโตมากว่า 370 ปีแล้ว เต้าหู้ของที่นี่ทำจากถั่วไดสึชั้นดี ผสมรวมกับน้ำคุณภาพที่ใสสะอาดบริสุทธิ์ของเมืองเกียวโต ทำให้ได้เนื้อเต้าหู้ที่เนียนละเอียดและรสสัมผัสดี รู้สึกถึงความหอมหวานของถั่วไดสึเพียงแรกเคี้ยว นอกจากนี้ที่นั่งรับประทานแบบญี่ปุ่นยังสามารถมองเห็นวิวสวนญี่ปุ่นอันเงียบสงบภายนอกได้อีกด้วย เรียกว่ามาที่เดียวได้ครบทั้งรสชาติและบรรยากาศแบบญี่ปุ่นอย่างแท้จริง

2. สุกี้ยากี้ร้านเก่าแก่ที่เป็นความภาคภูมิใจของเมืองเกียวโต “ร้านมิชิมะเท” (Mishima Tei)

photo by crpt.suemini   /   embedded from Instagram

อาหารที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงการปฏิรูปเมจิได้แก่ “สุกี้ยากี้” สมัยก่อนคนเกียวโตไม่นิยมการบริโภคเนื้อสัตว์ แต่ภายหลังที่ได้ลิ้มลองแล้วพบว่ารสชาติของเนื้อนั้นมีความหวานอร่อยจนเกิดความติดใจในรสชาติ และปัจจุบันชาวเกียวโตนั้นได้ชื่อว่าเป็นผู้บริโภคเนื้อวัวมากเป็นอันดับต้นของประเทศ

สำหรับท่านที่อยากลองรสชาติสุกี้ยากี้ขนานแท้แบบฉบับเมืองเกียวโต เราขอแนะนำร้าน “มิชิมะเท” ! ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1873 เป็นร้านเก่าแก่มีประวัติยาวนานมากว่า 150 ปีแล้ว เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นสุกี้ยากี้ร้านดังของเมืองเกียวโตรวมถึงแถบคันไซด้วย ร้านนี้ใช้เฉพาะเนื้อวากิวคัดพิเศษชั้นดี และมีรสชาติเหนือคำบรรยาย อร่อยจนแทบหลอมละลายในปาก

ด้วยราคาที่ดูเอื้อมถึงยากหากไปทานที่ร้านสาขาหลัก แต่ไม่ต้องกังวลหากคุณอยากลองรสชาติร้านดัง ที่ห้างสรรพสินค้าทาคาชิมายะก็มีสาขาบริการในราคาสบายกระเป๋า ซึ่งหลายท่านอาจไม่คุ้นชินกับชื่อเสียงของเนื้อวากิวจากเมืองเกียวโตมากนัก แต่ถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่ท่านจะได้ลิ้มลองเนื้อคุณภาพภายใต้การปรุงสุกี้ยากี้ในแบบฉบับคันไซ ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตไม่ควรพลาด !

3. ร้านราเมงเจ้าดังในเกียวโต “ทาคะยาสึ” (Takayasu Ramen)

photo by ramenman.jp   /   embedded from Instagram

เกียวโตได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งการศึกษา ว่ากันว่าหากคุณเดินในตัวเมืองแล้วเจอคน 10 คน หนึ่งในนั้นจะเป็นนักศึกษาเสีย 1 คน อาหารที่รวดเร็วฉับไวทานง่าย เช่น ราเมง ก็เป็นอาหารยอดฮิตของนักศึกษาเหล่านี้ รlชาติของราเมงเมืองเกียวโตจะออกแนวเข้มข้นถึงใจและเป็นอาหารยอดนิยม ถึงขนาดมีถนนชื่ออิจิโจจิ ที่รวบรวมราเมงร้านเด็ดไว้หลายร้านด้วยกัน รอให้คุณไปท้าพิสูจน์รสชาติความอร่อย

ถนนราเมงสายอิจิโจจินี้มีร้านดังอยู่หนึ่งเจ้า ชื่อร้าน “ทาคายาสึ” ที่ไม่ว่าเวลาไหนก็มีลูกค้าต่อแถวยาวเหยียดเพื่อรอลิ้มรสชาติ น้ำซุปของที่นี่ใช้เวลาต้มอย่างพิถีพิถันยาวนานถึง 22 ชม. โดยใช้กระดูกหมูและโครงไก่เป็นเบสวัตถุดิบ หลังผ่านการเคี่ยวอย่างยาวนานจะได้น้ำซุปสีขาวเข้มข้นรสกลมกล่อมเป็นที่ติดอกติดใจของลูกค้า เมนูยอดฮิตของที่นี่คือราเมงเนื้อลาย (Suji Ramen) และไก่คาราอาเงะ ที่เราไม่อยากให้คุณพลาดชิม

4. ถ้าอยากลองทานอาหารโอะบันไซในเกียวโต ต้องที่ร้าน “มิยาโกะยะไซ คาโมะ” (Miyako Yasai Kamo)

photo by johannaxkanae   /   embedded from Instagram

“โอะบันไซ” หมายถึงอาหารทั่วไปที่ชาวเกียวโตรับประทานเป็นประจำในบ้านเรือน ไม่มีรูปแบบที่ตายตัวว่าอาหารแบบไหนถือเป็นการปรุงแบบโอะบันไซ แต่ถือเอาตามอาหารที่ปรุงโดยใช้กรรมวิธีไม่มาก คงรสชาติแท้ๆของวัตถุดิบนั้นๆไว้ให้มากที่สุด ซึ่งอาหารประเภทนี้สามารถหารับประทานได้ระหว่างการเดินทาง ตามจำนวนร้านที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน

ท่ามกลางร้านโอะบันไซที่มีมากมายเหล่านี้ เราขอแนะนำร้าน “มิยาโกะยะไซ คาโมะ” ที่ปรุงโดยใช้วัตถุดิบที่มาจากผักที่ปลูกในโตเกียวเท่านั้น ซึ่งผักจากเกียวโตมีคุณภาพและเป็นที่นิยมอย่างมาก โดยให้ลูกค้าเลือกทานได้ในแบบบุตเฟต์ นอกจากอาหารแล้วยังมีซุปผัก และสมู้ทตี้ให้เลือกทานอีกด้วย หากคุณรู้สึกว่าไม่ได้รับประทานผักที่เป็นแหล่งวิตามินอย่างเพียงพอในระหว่างการเดินทางแล้วล่ะก็ อย่าพลาดที่จะเข้ามารับพลังที่ร้านแห่งนี้

แถมอีกนิดว่าช่วงเช้า ที่นี่ยังเปิดให้รับประทานอาหารในราคาประหยัดเพียง 500 เยนเท่านั้น มาลองชิมรสชาติอาหารที่ชาวเกียวโตรับประทานกันตามครัวเรือนได้ที่ร้านมิยาโกะยะไซ คาโมะ !

5. ขนมชาเขียวที่หวานและอร่อยต้องทานที่ร้าน “เกียวฮายาชิยะ” (Kyo-hayashiya)

photo by shihojinno   /   embedded from Instagram

สมัยก่อน น้ำตาลถือเป็นของหายากและหรูหราราคาแพง เฉพาะขุนนางหรือผู้ที่มีฐานะเท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงรสชาติอันหอมหวานนี้ได้ และด้วยน้ำตาลนี่เองที่ทำให้เกิดการพัฒนากรรมวิธีการผลิตขนมหวานของชาวเกียวโต ที่เมื่อมาถึงยุคนี้ได้มีการผสมผสานรสชาติดั้งเดิมหลอมรวมกับรสชาติของขนมหวานจากตะวันตก ที่เป็นที่รู้จักกันดีก็ได้แก่มัจฉะพาเฟต์ หรือพาเฟต์ชาเขียวยอดนิยมจากเมืองเกียวโต จนถึง ณ ตอนนี้ก็ยังมีร้านที่เปิดบริการตั้งแต่อดีตมาจนปัจจุบัน

ร้านที่เป็นผู้คิดค้นสูตรมัจฉะพาเฟต์ขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 1960 คือร้าน “เกียวฮายาชิยะ” ที่ปัจจุบันเป็นขนมพื้นๆทั่วไปหาทานได้ง่าย แต่ในอดีตไม่ได้เป็นเช่นนั้น ที่ร้านนี้มีเมนูมากมายตั้งแต่ขนมชาเขียวไปจนถึงอาหารเบาๆไว้คอยบริการ ให้คุณใช้เวลาเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศแบบญี่ปุ่นและอาหารแสนอร่อย พิเศษตรงที่ร้านนี้ใช้ชาเขียวอุจิฉะ ที่ถือว่าเป็นชาเขียวชั้นยอดของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย อย่าพลาดมาชิมรสชาติชาเขียวแท้ๆว่าเป็นอย่างไร !

6. ร้านขนมปังที่ใส่ไอเดียบรรเจิดออกมาเป็นขนมปังสุดฮิป “Le Petitmec”

photo by colon_8   /   embedded from Instagram

ถ้าเดินไปตามถนนหนทางในเกียวโต เป็นต้องสะดุดตากับร้านขนมปังที่มีหลากหลายร้าน ใช่แล้ว ! เกียวโตเป็นเมืองที่ผู้คนนิยมรับประทานขนมปังมากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ชาวเมืองที่นี่ทานขนมปังเป็นอาหารเช้า และมีขนมปังหลากหลายตั้งแต่ขนมปังฝรั่งเศสสูตรดั้งเดิม เบเกิล และขนมปังแบบอื่นๆ เป็นเมืองที่รวมร้านขนมปังแถวหน้าของประเทศไว้หลายร้านเลยทีเดียว

หนึ่งในร้านต่างๆเหล่านี้ มีร้านขนมปังชื่อดังที่ติดอันดับต้นๆของประเทศ และมีสาขาหลักอยู่ที่เกียวโต คือร้าน”Le Petitmec” ร้านนี้มีหลายสาข และมีธีมต่างกัน เช่นที่ร้านสาขาห้างสรรพสินค้าไดมารู จะตกแต่งในบรรยากาศแบบปารีส และมีสินค้าชูโรงคือโดนัท ในขณะที่สาขา Omake ซึ่งเพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน มีสินค้าเด่นอยู่ที่ขนมปังไส้ต่างๆ เป็นต้น ที่อยากให้ลองคือร้านสาขาหลัก ที่มีคาเฟโอเล่ใส่นมเข้มข้นไว้ทานคู่กับขนมปังสุดอร่อย ! แต่โปรดเช็คแผนการเดินทางให้ดี เพราะเมนูนี้มีขายเฉพาะวันหยุดเสาร์อาทิตย์เท่านั้น

7. หากอยากชิมกาแฟร้านดังฝีมือชาวเกียวโตต้องที่ร้าน “อิโนะดะ คอฟฟี่” (Inoda Coffee)

photo by usakon19   /   embedded from Instagram

นอกการบริโภคขนมปังที่มากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศแล้ว ชาวเมืองเกียวโตก็บริโภคกาแฟมากเป็นอันดับหนึ่งอีกเช่นเดียวกัน โดยอัตราเฉลี่ยการดื่มกาแฟของคนที่นี่อยู่ที่ 4.5 แก้วต่อวันเลยทีเดียว ! สาเหตุก็ว่ากันว่า เกียวโตเป็นเมืองที่มีเด็กนักเรียนนักศึกษามาก จึงมีร้านกาแฟที่ไว้นั่งดื่มคุยกันสบายๆ บ้างก็ว่าเป็นเพราะว่าคนที่นี่บริโภคขนมปังกันเยอะ เลยต้องทานกาแฟคู่ไปด้วย ร้านกาแฟที่นี่มีหลากหลายสไตล์ ตั้งแต่แบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ไปจนถึงร้านกาแฟทางเลือก

ท่ามกลางร้านกาแฟที่มีมากมาย จะไม่เป็นการกล่าวเกินจริงเลยว่าร้าน “อิโนะดะ คอฟฟี่” คือร้านที่มีชื่อเสียงที่สุดในเกียวโต ร้านนี้เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 1940 เป็นร้านเก่าแก่คู่เมืองเกียวโตมาช้านาน มีหลายสาขากระจายทั่วเมือง แต่ละที่ก็ตกแต่งในสไตล์เรโทรชิค ให้คุณใช้เวลาจิบกาแฟอย่างเนิบช้าและผ่อนคลายไปกับบรรยากาศร้าน

เมนูที่นี่มีหลากหลายตั้งแต่แซนด์วิชไปจนถึงสปาเก็ตตี้ที่ให้อารมณ์แบบญี่ปุ่นโบราณ ถือเป็นเสน่ห์ที่ร้านอื่นยากจะลอกเลียนแบบ เมนูแนะนำคือ “เซ็ตอาหารเช้า” ที่คัดสรรขนมปังชั้นยอดเสริฟ์มาพร้อมสลัดและเครื่องเคียงอื่นๆ เป็นเมนูยอดนิยมของทางร้านเลยทีเดียว มาให้รางวัลตัวเองด้วยการทานอาหารเช้าดีๆ ระหว่างการท่องเที่ยวกันเถอะ !

8. ร้านซูชิดั้งเดิมในแบบฉบับของเมืองเกียวโต ร้าน “อิซุอุ” (Izuu)

photo by xxxiameric   /   embedded from Instagram

เกียวโต เมืองที่ล้อมรอบด้วยภูเขาและอยู่ห่างไกลจากน้ำทะเล ก่อนที่จะมีการพัฒนาถนนหนทางเฉกเช่นทุกวันนี้ ปลาสดๆถือเป็นของหายากยิ่งกว่าทองคำ โดยเฉพาะปลาซาบะที่เน่าเสียได้ง่ายกว่าปลาชนิดอื่นจะเป็นที่นิยมในหมู่ชาวเกียวโตเป็นอย่างมาก ปลาซาบะนี้จะเว้นไว้ทานในช่วงเวลาพิเศษ เช่น เวลาที่มีงานเทศกาลเป็นต้น ปัจจุบันปลาซาบะหารับประทานได้ง่ายกว่าสมัยก่อน และเป็นปลาที่ชาวเกียวโตหลงไหลในรสชาตินับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ร้านซาบะเจ้าดังในเมืองเกียวโตคือร้าน “อิซุอุ” ที่ก่อตั้งในปี 1781 เป็นร้านเก่าแก่อยู่คู่เมืองมากว่า 230 ปีแล้ว วัตถุดิบที่ใช้ทำซูชิชนิดนี้ก็พิถีพิถันเลือกเฉพาะปลาซาบะที่จับได้จากน่านน้ำญี่ปุ่นเท่านั้น และใช้ข้าวซูชิคุณภาพเยี่ยมจากจังหวัดชิกะ ส่วนสาหร่ายคมบุที่ห่อหุ้มวาบะซูชิอีกชั้นนั้นนำมาจากจังหวัดฮกไกโด และเพื่อให้คงความสดอร่อยได้ยาวนาน ชาวเกียวโตจะห่อซาบะซูชินี้ด้วยใบไผ่อีกหนึ่งชั้น คนที่นี่จะรับประทานเฉพาะช่วงเวลาสำคัญๆ หากอยากลิ้มลองรสชาติของวัฒนธรรมอาหารเกียวโตอันเก่าแก่ เราขอแนะนำซูชิร้านอิซุอุ

9. หากอยากลองลิ้มรสอุด้งเมืองเกียวโต ต้องที่ร้าน “นิโอมัง อุเนะโนะ” (Nioman Uneno)

photo by hirokichi71   /   embedded from Instagram

อุด้งเมืองเก่าแห่งนี้ถูกเรียกว่า “เกียวอุด้ง” โดดเด่นด้วยรสชาติของน้ำซุปที่อร่อยและเส้นเล็กเหนียวนุ่ม ท้อปปิ้งด้วยเต้าหู้และต้นหอมญี่ปุ่น อัดแน่นด้วยของขึ้นชื่อของเมืองเกียวโต มากกว่าการรับประทานเส้นอุด้ง คงต้องกล่าวว่าเป็นการซดน้ำซุปที่อร่อยจนหยดสุดท้ายเลยทีเดียว

หากพูดถึงร้านอุด้งเจ้าดังของเมืองเกียวโต ต้องไม่พลาดร้าน “นิโอมัง อุเนะโนะ” ! ที่ดูแลรสชาติอาหารโดยบริษัทผลิตปลาโออบแห้งที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการปรุงน้ำซุปอุด้ง เมนูแนะนำของร้านคือ “คิสึเนะอุด้งแบบเกียวโต” ที่โรยหน้าด้วยต้นหอมญี่ปุ่นและเต้าหู้ซาซามิ และเมนู “อุด้งอุเมะทามะ” และเมนูอื่นๆอีกมากมายรอให้คุณเลือกสรร ! นอกจากนี้ยังมีไซด์ดิชที่เสริฟ์มาเป็นเซ็ตพร้อมอุด้ง อาทิเช่น ข้าวทรงเครื่องทาคิโคมิโกะฮัง เป็นต้น ในวันที่เหนื่อยล้ากับการท่องเที่ยวมาทั้งวัน การทานอุด้งก็ช่วยบรรเทาความเมื่อยล้าได้อย่างหนึ่ง เราขอท้าให้คุณพิสูจน์

10. ดื่มด่ำกับอาหารไคเซกิแบบเกียวโตได้ที่ร้าน “เกียวโตวะคุเด็ง” (Kyoto Wakuden)

photo by tomo3801   /   embedded from Instagram

ประเพณีการชงชาเป็นอีกประเพณีเก่าแก่ที่อยู่คู่เมืองเกียวมาช้านาน อาหารชุดไคเซกิก็มีประวัติมาจากพิธีชงชานี้ที่ใช้อาหารไคเซกิเป็นส่วนประกอบ เซ็ตอาหารนี้มีความพิถีพิถันตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบในการปรุงอาหาร อาทิ วัตถุดิบสดอร่อยของแต่ละฤดูกาล การเลือกสีและรูปทรงของภาชนะที่ใช้ให้เข้ากับอาหาร เป็นการกระตุ้นทุกประสาทสัมผัสของผู้รับประทานให้เกิดความพึงพอใจอย่างสูงสุดต่ออาหารที่วางอยู่ด้านหน้า

ด้วยลักษณะที่บรรยายมาข้างต้น ทำให้ติดภาพความหรูหราของอาหารเซ็ตไคเซกิ แต่ความจริงแล้วภาพเหล่านั้นสามารถบั่นทอนได้หากคุณเข้ามารับประทานอาหารไคเซกิในมื้อเที่ยง !

หากคุณอยากสัมผัสบรรยากาศอาหารสุดหรูของเมืองเกียวโตนี้ เราขอแนะนำร้าน “วะคุเด็ง ” ที่มีหลายสาขาทั่วเมืองเกียวโต ราคานั้นก็ขึ้นอยู่กับสาขาที่ตั้ง หากเป็นสาขาวัดโคไทจิที่มีบรรยากาศหรูหราราคาก็ดูจะจับต้องได้ยากถ้าไม่ใช่โอกาศพิเศษจริงๆ แต่อาหารไคเซกิของร้านวะคุเดงที่สาขาห้างสรรพสินค้าอิเซตันนั้น หากไปทานในช่วงอาหารเที่ยงจะมีให้ท่านเลือกทานในราคาสบายกระเป๋า ! อย่ากลัวที่จะลองอาหารเซ็ตหรูหราในวันธรรมดาของคุณ!

มาทานอาหารอร่อยๆของเมืองเกียวโตกันเถอะ!

เป็นอย่างไรกันบ้าง ? เห็นแล้วหรือยังว่าเมืองประวัติศาสตร์เกียวโตนั้น มีร้านอาหารให้เลือกมากมายตั้งแต่ร้านสุดหรูหราไปจนถึงร้านอาหารทั่วไปที่ชาวเมืองต่างนิยมในรสชาติ มาลองเข้าร้านโน้นออกร้านนี้ ชิมรสชาติให้หนำใจแล้วบันทึกเป็นร้านอาหารที่ถูกใจของคุณกันเถอะ มาเยือนเกียวโตครั้งใดก็ขอให้เต็มอิ่มกับรสชาติของอาหารพื้นเมืองที่มีให้ทานเฉพาะที่นี่เท่านั้น!