【ห้ามพลาด】10 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวในโกเบ ประเทศญี่ปุ่น แนะนำจุดทัวร์โดยชาวญี่ปุ่น!!

เมืองโกเบ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างภูเขารอคโคซังและชายฝั่งทะเล มีความเจริญรุ่งเรืองด้านการค้าขาย จากการเป็นเมืองท่า มาตั้งแต่ยุคสมัยโบราณ และยังเป็นพื้นที่สำคัญในการเดินเรือไปสู่เมืองโอซาก้า ซึ่งถือได้ว่าเป็น “ห้องครัวขนาดใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น” โดยในช่วงหลังปี ค.ศ.1868 หลังจากประเทศญี่ปุ่นได้เปิดประเทศ เมืองโกเบ นั้นคับคั่งไปด้วยเรือสินค้าจากต่างชาติ เมืองโกเบ ยังมีอาหารและของกินอร่อยหลากหลายอย่าง เช่นสาเกของโรงบ่มย่านนาดะ, เนื้อโกเบ, และ ย่านไชน่าทาวน์ เป็นต้น ตอนนี้เราขอแนะนำจุดท่องเที่ยวทั้ง 10 อันดับ

1． เขตตั้งถิ่นฐานของชาวต่างชาติ ภาพความทรงจำของอดีตที่ยังคงเหลือ

เขตที่อยู่อาศัยที่ถูกสร้างขึ้นเป็นเป็นเขตอาศัยของคนต่างชาติ และใช้เป็นสถานที่ทำการค้าขาย ในสมัยนั้นวิศวกรชาวอังกฤษ เป็นผู้ออกแบบการสร้างบ้านและอาคารเป็นแบบสไตล์ยุโรป รัฐบาลอังกฤษได้กำหนดให้เป็นเขตปกครองนอกราชอาณาจักรฯ แต่เมื่อปี ค.ศ.1899 รัฐบาลอังกฤษได้ทำการคืนพื้นที่เขตที่อยู่อาศัย คืนให้กับรัฐบาลประเทศญี่ปุ่น และมียังคงความเจริญรุ่งเรืองจนกลายเป็นสถานที่แลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมกับต่างชาติมาจนถึงปัจจุบันนี้ เนื่องจากภัยพิบัติจากธรรมชาติจากครั้งอดีตเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทำให้บ้านและอาคารที่เก่าแก่เหล่านั้นได้รับความเสียหาย จำนวนบ้านและอาคารเก่าได้ลดจำนวนลงไป แต่ความสวยงามของเมืองยังคงมีหลงเหลืออยู่ อาคารเก่าที่ยังอยู่ ก็ได้รับการปรับปรุงให้เป็นร้านบูติก หรือ ร้านกาแฟ ทำให้กลายเป็นแหล่งที่น่ามาเดินเล่น อาคารพิพิธภัณฑ์เมืองโกเบ เมื่อก่อนเคยเป็นอาคารของธนาคาร เป็นสถานที่เหมาะสำหรับการค้นคว้าและศึกษาประวัติศาสตร์ของเมืองโกเบ เชิญชวนมาเดินเล่นย่านเมืองเก่าของโกเบ

2． นันกิงมาจิ ย่านไชน่าทาวน์ที่ใหญ่ที่สุด ของเขตคันไซ

นันกิงมาจิ นั้นมีมาพร้อมกับท่าเรือโกเบ ในปี ค.ศ.1868 ประเทศจีนสมัยนั้น เป็นยุคของราชวงศ์ชิง ซึ่งไม่ได้ทำสนธิสัญญากับญี่ปุ่น เลยทำให้ชาวจีนไม่สามารถอยู่ในเขตอาศัยของคนต่างชาติได้ จึงต้องมาอาศัยอยู่ที่ นันกิงมาจิ ซึ่งก็อยู่ใกล้เคียงกับเขตอาศัยของคนต่างชาติ และได้อาศัยอยู่ ทำธุรกิจการค้าขายเรื่อยมา จนถึงปัจจุบันมีร้านค้า, ร้านขายของชำ, ร้านอาหาร อื่นๆ มากกว่า 100 ร้าน และเป็นเขตพื้นที่ทางวัฒนธรรมของคนจีน ที่ นันกิงมาจิ มีของกินอร่อยหลายอย่าง ที่สามารถเดินหาของกินได้ เช่น ซาลาเปาไส้ถั่ว ซาลาเปาไส้หมู และเป็ดปักกิ่ง นอกจากเรื่องของอาหารการกินแล้วยังมี งานเทศกาลของคนจีน มากมายตลอดทั้งปี เช่นเทศกาลตรุษจีน, เทศกาลไหว้พระจันทร์ เชิญมาสนุกที่ย่านไชน่าทาวน์ กับวิถีของชาวเมืองที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองโกเบกันเถอะ

3． เขตที่ตั้งถิ่นฐานของชาวต่างชาติ คิตะโนะ ย่านวัฒนธรรมของชาวต่างชาติ

เนิน คิตะโนะ เป็นย่านบ้านพักของบรรดาเศรษฐีชาวต่างชาติ ที่ได้เข้ามาอยู่ในเขตที่ตั้งถิ่นฐานของชาวต่างชาติ ในสมัยที่ เมืองโกเบเปิดท่าเรือ ทำการค้ากับต่างชาติ โดยบ้านเหล่านี้ ได้ถูกออกแบบโดยสถาปนิกชาวยุโรป ชาวอังกฤษ, ชาวเยอรมัน และชนชาติยุโรปอื่นๆ ในปัจจุบันจึงกลายเป็นเป็นสถานที่ ที่ควรมาเยี่ยมชมมากๆ มีบ้านเก่าๆ ที่เปิดบริการให้เข้าชมบ้าน มากกว่า 20 หลัง บ้านหลังที่ได้รับความนิยม มีผู้เข้าชมมากที่สุดคือ อุโระโคะโนะอิเอะ (บ้านเกล็ดปลา) มีการใช้แผ่นหินติดไว้รอบตัวบ้านคล้ายกับเกล็ดปลา และภายในตัวบ้านมีการแสดง วัตถุ สิ่งของเครื่องใช้ อุปกรณ์ต่างๆในบ้าน ที่เป็นของเก่าโบราณ มีบัตรเข้าชมแบบในราคาเหมาจ่ายสำหรับเข้าไว้เพื่อชมบ้านและอาคารต่าง รวมทั้งที่ อุโระโคะโนะอิเอะ ด้วย สำหรับคนที่ไม่ต้องการเข้าชมภายในอาคาร ก็สามารถเดินชม และสัมผัสบรรยากาศบริเวณย่านนี้ก็ได้ ขอแนะนำร้านกาแฟ สตาร์บัค สาขาโกเบ คิตะโนะ อิจินคัน ร้านกาแฟสตาร์บัคสาขานี้ ก็คือบ้านหลังเก่าที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ในย่านคิตะโนะนั้น ยังมีร้านกาแฟ ร้านแจ๊สบาร์ ร้านอาหารนานาชาติ ร้านค้าเบ็ดเตล็ด แกลลอรี่ อื่นๆมากมาย หลากสไตล์ เชิญชวนมาเดินเล่นหาร้านที่ชื่นชอบที่ถูกใจ

4． สวนสมุนไพร โกเบ นุโนะบิคิ ซื้อของฝากที่ผลิตจากสมุนไพรธรรมชาติกันเถอะ

สวนสมุนไพร โกเบ นุโนะบิคิ เพียงแค่ 10 นาที โดยการนั่งรถกระเช้าจากสถานีชินโกเบ ค่าบัตรโดยสารรถกระเช้า กับบัตรค่าเข้าชมสวนสมุนไพรรวมกัน ราคา 1,400 เยน ที่จุดชมวิวบนยอดเขา สามารถมองเห็นไกลได้ถึงท่าเรือ และสนามบินโกเบ ที่สวนสมุนไพร มีสมุนไพรนานาชนิด ประมาณ 200 สายพันธุ์ มากกว่า 75,000 ต้น และยังมีดอกไม้ตามฤดูกาลอีกด้วย ในสวนยังมีสถานที่พักผ่อนที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น ร้านอาหารที่ใช้สมุนไพรทำเป็นอาหาร , ร้านกาแฟ ที่มีชาสมุนไพร, ร้านน้ำมันหอมระเหย, ศูนย์ข้อมูลด้านกลิ่น , ร้านจำหน่ายสินค้า มีชาสมุนไพรแบบดั้งเดิม , เครื่องสำอางคุณภาพดี ที่เหมาะสำหรับซื้อเป็นของฝาก

5． โกเบ ฮาร์เบอร์แลนด์ ศูนย์รวมทุกกิจกรรมที่เหมาะกับทุกโอกาส

เพียง 5 นาที จากสถานีรถไฟโกเบ ฮาร์เบอร์แลนด์ เป็นพื้นที่ ที่มีบริเวณอยู่ติดกับทะเล สามารถมองเห็นท่าเรือโกเบได้โดยรอบ ที่นี่มีร้านค้า , ร้านอาหาร , โรงภาพยนตร์ , พื้นที่จัดกิจกรรมต่างๆ ศูนย์การค้า Umie ที่มีร้านค้ากว่า 225 ร้าน ห้างสรรพสินค้า Mosaic ที่ตัวอาคารหันหน้าสู่ทะเล, พิพิธภัณฑ์อันปังแมน ที่เด็กๆชื่นชอบ, มันโยคลับ ที่อาบน้ำแร่ออนเซ็น, และอื่นๆ เป็นที่สำหรับมาท่องเที่ยวพักผ่อน หรือจับจ่ายสินค้า เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย ใครที่ต้องการมาช้อปปิ้งที่เมืองโกเบ ก็ต้องมาที่นี่เป็นที่แรก

6． หอคอยโกเบ สัญลักษณ์แห่งเมืองโกเบ

หอคอยโกเบ เป็นสัญลักษณ์ของเมืองโกเบ ตั้งอยู่ที่ท่าเรือโกเบ จุดชมวิวชั้นบนสุดของหอคอย สามารถมองเห็นจากบริเวณท่าเรือไปจนถึงเกาะอะวาจิชิมะ และภูเขารอคโค ที่ชั้น3 มีร้านกาแฟที่สามารถมองเห็นวิวได้ 360 องศา ใช้เวลาพักผ่อน กับการดื่มชาพร้อมกับชมวิวไปด้วย บริเวณด้านล่างของหอคอย จะมีสวน เมริเคน พาร์ค อยู่ใกล้ๆ ภายในสวน เมริเคน พาร์ค มีพิพิธภัณฑ์ คาวาซากิ ที่เกี่ยวกับเรือสินค้า และโรงแรมสุดหรู เป็นที่ๆนักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูป และยังมีเรือสำหรับพาเที่ยวอ่าวโกเบ ถ้ามีเวลาว่างขอเชิญมาล่องเรือชมอ่าวโกเบ

7． สวนสัตว์โกเบ Kobe Animal Kingdom

photo by nao7070nakamura   /   embedded from Instagram

สวนสัตว์โกเบ ตั้งอยู่ที่ Port Island อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าสาย Port line เชิญชวนมาสัมผัสกับดอกไม้มากมาย และนกนานาชนิด อาคารสวนสัตว์เป็นเรือนกระจกขนาดใหญ่ และบริเวณด้านนอกมีเรือนกระจกที่ปลูกพรรณไม้หลากหลายชนิด ที่มีดอกไม้บานตลอดทั้งปี และนกหลายชนิด ที่เป็นสายพันธ์จากเขตภาคใต้ จึงมีบรรยากาศเหมือนกับรีสอร์ท ในสวนสัตว์มีการจัดให้เล่น และให้อาหารสัตว์ เช่น Capybara, Alpaca สามารถเข้าชมได้แม้วันที่ฝนตก มาสนุกกันได้ทุกเพศทุกวัย

8． Kobe-Sanda Premium outlet ห้างเอาท์เล็ตที่ใหญ่ที่สุดของภาคตะวันออก

photo by enori515   /   embedded from Instagram

Kobe-Sanda Premium Outlet เป็นห้างที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก สินค้าแบรนด์เนมชั้นนำ อาทิเช่น Gucci, Prada, Bottega Veneta แบรนด์เนมของญี่ปุ่น เช่น United Arrow, Beams และแบรนด์สินค้า Outdoor เช่น The North face และแบรนด์สินค้า อื่นๆอีกมากมาย มีร้านสเต้กที่ขึ้นชื่อร้าน Sandaya และร้าน Kannonya ชีสเค้กสไตล์โกเบ ด้านข้างมีทางเดินเชื่อมต่อไปยังห้าง Aeon Mall เชิญมาเลือกหาสินค้าที่ถูกใจกันเถอะ

9． โรงกลั่นสาเกย่านนาดะ ชิมสาเก และ เรียนรู้ขั้นตอนการผลิต

photo by shigemi08   /   embedded from Instagram

นาดะ เป็นย่านที่ผลิตสาเก ในสมัยเอโดะ ได้มีการสร้างที่ผลิตสาเก ที่ชื่อว่า “นาดะโกะโก” ไปตลอดแนวชายฝั่งจากโกเบ ย่านชูโอ, นาดะ, ฮะกาชินาดะ ไปจนถึง อิมามิยะ ในปัจจุบันนี้ มีโรงกลั่นสาเกที่มีชื่อเสียง ได้แก่ ซาวะโนะ ทสึรุ, (ฮาคุ ทสึรุ)

โรงกลั่นบางแห่งก็ได้มีการปรับปรุงโรงกลั่น ให้มีร้านอาหารด้วย ย่านโรงกลั่นมีบรรยากาศของยุคสมัยเก่า จึงเหมาะแก่การเดินเล่น ที่โรงกลั่น ฮาคุ ทสึรุ ได้จัดตั้งพิพิธภัณฑ์โรงกลั่นสาเก ซึ่งมีการสาธิตขั้นตอนการผลิตสาเก และการชิมสาเก ย่านนาดะ จึงเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เชิญมาเยี่ยมชมกันได้

10． อาริมะ ออนเซ็น เที่ยวน้ำพุร้อนตามงานวรรณกรรมญี่ปุ่น

เมื่อปี ค.ศ. 631 ได้มีนักปราชญ์ท่านหนึ่ง ได้มาเยี่ยมเยือนที่ อาริมะ ออนเซ็น แห่งนี้ และได้ทำการเขียนถึงน้ำพุร้อน อาริมะ ออนเซ็น ไว้ในงานวรรณกรรม ใช้เวลาเดินทางเพียง 30 นาทีจากสถานีรถไฟโกเบ ซันโนะมิยะ มาลงที่สถานีรถไฟ อาริมะ ออนเซ็น พอก้าวลงจากรถไฟ คุณจะรู้สึกเหมือนว่าได้เดินทางมายังที่แสนห่างไกลจากโลกภายนอก มาแช่น้ำแร่เพื่อผ่อนคลาย จะมาแบบไปกลับ หรือจะพักค้างคืนก็ได้ เชิญมาแช่น้ำแร่ออนเซ็น ที่คิโนะยุ และที่ กิงโนะยุ และสัมผัสกับวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่นกันได้

มาเที่ยวรอบเมือง! กับ 10 สถานที่ท่องเที่ยว ที่ไม่ควรพลาดของเมืองโกเบกันเถอะ

เป็นอย่างไรบ้าง? เมืองโกเบที่อยู่ระหว่างภูเขากับทะเล มีบรรยากาศที่แตกต่างจากโอซาก้า , เกียวโต และเมืองอื่นๆในภูมิภาคคันไซ การเดินทางก็สะดวกจากโอซาก้า และ เกียวโต สามารถเดินทางไปกลับได้ภายในวันเดียว ถ้ามีโอกาสได้มาเที่ยวในเขตคันไซ ขอเชิญมาเที่ยวที่เมืองโกเบ