【ห้ามพลาด】10 สุดยอดวิวกลางคืนในฟุกุโอกะ แนะนำจุดทัวร์โดยชาวญี่ปุ่น!!

จังหวัดฟุกุโอกะ เมืองขนาดใหญ่ที่มีประชากรอยู่มากกว่า 5,000,000 คน ด้วยเหตุนี้ จึงมีลักษณะเด่นอยู่ที่บ้านเรือนที่หนาแน่นและมีแมนชั่นเป็นจำนวนมาก อีกทั้ง ยังมีอาคารขนาดใหญ่ที่มีทางด่วนตัดผ่านอยู่อีกมากมาย นั่นก็หมายความว่า ที่จังหวัดฟุกุโอกะมีสภาพแวดล้อมที่เพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ยามค่ำคืนอยู่อย่างครบครันนั่นเอง! โดยในที่นี้ เราจะนำเสนอจุดชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนแนะนำ โดนเน้นไปที่เมืองฟุกุโอกะและเมืองคิตะคิวชู ในช่วงเวลาว่างระหว่างการท่องเที่ยว ลองมาเพิ่มสถานที่เหล่านี้ลงไปในเส้นทางของท่านกันดูไหม?

1． “ภูเขาซารากุระ” ที่ขึ้นชื่อในฐานะที่เป็น 1 ในชินนิฮงซันไดยาเค (สามสุดยอดทิวทัศน์ยามค่ำคืนในญี่ปุ่นแห่งใหม่)

ที่นี่เป็นจุดชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่ขึ้นชื่ออันดับหนึ่งในจังหวัดฟุกุโอกะ ซึ่งเป็นสถานที่หลักที่ถ้าหากว่าเป็นคนในจังหวัดฟุกุโอกะแล้วล่ะก็จะต้องเคยแวะไปสักครั้ง ทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่เห็นได้จากยอดเขาของที่นี่ เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดทิวทัศน์ไม่มีที่ใดเทียบได้เลย ซึ่งการเดินทางจะนั่งเคเบิ้ลคาร์จากสถานีซันโรคุ (ตีนเขา) ไปถึงสถานีซันโจ (ยอดเขา) เป็นความยาวทั้งหมด 1,100 เมตร จากนั้นก็จะนั่งสโลปคาร์ไปประมาณ 3 นาทีก็จะถึงยอดเขา

จากหอชมวิวที่ความสูง 622 เมตรจากระดับน้ำทะเลก็จะสามารถมองเห็นทิวทัศน์เมืองคิตะคิวชูอยู่เบื้องล่าง ยิ่งไปกว่านั้นในวันที่อากาศดีแจ่มใสก็จะสามารถมองเห็นสะพานคันมงรวมถึงพื้นที่ชิโมโนเซกิได้ทั่วเลย ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของภูเขาซารากุระที่ได้รับเลือกเป็น “ชินนิฮงซันไดยาเค (สามสุดยอดทิวทัศน์ยามค่ำคืนในญี่ปุ่นแห่งใหม่)” เมื่อปี 2003 นั้น มีแสงไฟจากเขตอุตสาหกรรมซึ่งรวมถึงโรงทำเหล็กยาฮาตะที่สวยงามชวนเพ้อฝันเป็นพิเศษ ส่วนทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่อ่าวโดไกและสะพานวากาโตะรวมถึงกลุ่มโรงงานที่เป็นหนึ่งเดียวกับทิวทัศน์เมืองนั้น เพียงแค่ได้มองก็จะตะลึงไปกับความงดงานจนพูดไม่ออกเลยทีเดียวเชียว

2． “หอชมวิวคาตาเอะ ภูเขาอาบุระ” จุดชมวิวที่สามารถชมเมืองฟุกุโอกะได้ทั่ว

ที่ภูเขาที่มีความสูง 597 เมตรจากระดับน้ำทะเลซึ่งอยู่ในพื้นที่ทางตอนใต้ของเมืองฟุกุโอกะนั้น มีจุดชมวิวตั้งอยู่มากมายหลายที่ ซึ่งเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับชาวเมือง ในฐานะที่เป็นจุดชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่อยู่ใกล้พื้นที่ใจกลางเมืองฟุกุโอกะ ในบรรดาสถานที่เหล่านั้นเอง ทัศนียภาพที่ชมได้จากหอชมวิวคาตาเอะที่อยู่ตรงตอนกลางของภูเขานั้นเป็นอะไรที่สุดยอดมาก ซึ่งมีภาพพาโนรามาขนาดใหญ่ตั้งแต่เมืองฟุกุโอกะ ท่าเรือฮากาตะ ไปจนถึงฟุกุโอกะทาวเวอร์แผ่ไปทั่วเลย

อีกทั้ง ที่นี่ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับรถที่วิ่งอยู่บนทางด่วน และเครื่องบินที่บินขึ้นฟ้าและลงสู่พื้นดินที่สนามบินฟุกุโอกะได้ นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีม้านั่งและแสงไฟอยู่อย่างเพียบพร้อม ท่านจึงสามารถค่อย ๆ ชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนได้อย่างสบายใจ โดยในช่วงสุดสัปดาห์จะแออัดเป็นพิเศษ บางทีก็ถึงขึ้นที่จอดรถเต็มหมดเลยทีเดียว เราจึงขอแนะนำให้ออกเดินทางตั้งแต่ตอนเย็นเลยก็จะดีกว่านะ!

3． “ศาลเจ้าอาตาโกะ” จุดชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่โดดเด่นในฟุกุโอกะ

photo by umeyama102   /   embedded from Instagram

ที่นี่เป็น 1 ใน “นิฮงซังไดอาตาโกะ (สามศาลเจ้าอาตาโกะที่โดดเด่นแห่งญี่ปุ่น)” ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาเล็ก ๆ ที่ความสูง 60 เมตรจากระดับน้ำทะเล อีกทั้งยังเป็นศาลเจ้าที่มีประวัติความเป็นมาเก่าแก่ที่สุดในฟุกุโอกะ ในปัจจุบันก็ได้มีผู้คนมาเยือนเพื่อขอพรเรื่องคู่ครองและการสมหวังเรื่องความรักอยู่อย่างไม่ขาดสาย นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นจุดชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนยอดนิยมอันดับต้น ๆ ในเมืองฟุกุโอกะ ซึ่งเพียงแค่ก้าวขึ้นบันไดจากที่จอดรถก็จะไปถึงจุดชมวิวได้เลย

ซึ่งจากตรงจุดนี้ก็จะมีทัศนียภาพที่เน้นไปที่ฟุกุโอกะทาวเวอร์ แล้วก็มีกลุ่มอาคาร แมนชั่น บ้านเรือน ทางด่วน และอ่าวฮากาตะแผ่ไปทั่วเบื้องหน้าของท่าน แล้วเนื่องจากเป็นสถานที่ที่มีผู้คนมาเยือนเพื่อมาชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนกันเป็นจำนวนมาก ที่นี่จึงติดตั้งไฟริมถนนและพวกม้านั่งไว้อย่างเพียบพร้อม แม้จะแวะมาตอนกลางคืนก็วางใจได้! นอกจากนี้ บริเวณรอบ ๆ ศาลเจ้าอาตาโกะก็ยังมีจุดชมซากุระในฤดูใบไม้ผลิ และชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงอีกด้วย ถ้ามาได้ถูกจังหวะ ท่านก็อาจจะได้แวะมาเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ยามค่ำคืน ไปพร้อม ๆ กับการชมดอกไม้หรือเก็บใบไม้เปลี่ยนสีก็คงจะดีไม่น้อยเลยนะ!

4． “ห้องชมวิวโมจิโค เรโทร” ที่สามารถเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพตรงหน้าของญี่ปุ่นที่ดีงามและเก่าแก่

photo by jeon_seong_bin_   /   embedded from Instagram

ที่บริเวณรอบ ๆ สถานี JR โมจิโคยังคงมีอาคารที่สร้างมาตั้งแต่ยุคไทโชจนถึงยุคโชวะหลงเหลืออยู่มากมาย ซึ่งบรรยากาศของเมืองที่มีอาคารบ้านเรือนตั้งเรียงรายที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งต่างแดนนี้ เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวมาก ๆ และที่ชั้น 31 บนแมนชั่นสูงที่มีชื่อว่า “เรโทร ไฮมาร์ท” ที่ออกแบบโดยสถาปนิกคุโรคาวะ คิโช ซึ่งตั้งอยู่ตรงหัวมุมของพื้นที่ที่เรียกกันว่าโมจิโค เรโทร ก็คือ “ห้องชมวิวโมจิโค เรโทร” นั่นเอง

ที่นี่ตั้งอยู่บนความสูง 103 เมตร ซึ่งจากห้องชมวิวที่ปูด้วยกระจกก็จะสามารถชมทิวทัศน์เมืองโมจิโค เรโทร และช่องแคบคันมงตรงเบื้องล่างสายตาได้ทั่ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ก็จะมีการจัดงานแสงสีขึ้น ยิ่งทำให้เราสามารถเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่สวยงามขึ้นไปได้อีก โดยช่วงเวลาตั้งแต่ยามเย็นที่ท้องฟ้าและทะเลถูกย้อมด้วยสีแดง ไปจนถึงช่วงที่เริ่มมีแสงไฟในเมืองขึ้นมานั้นเป็นจังหวะชมวิวที่เยี่ยมที่สุด

5． “ลานกว้างชมวิวโคเมะโนะยามะ” จุดชมวิวยอดนิยมที่มีพาโนรามาขนาดใหญ่ด้วยทัศนวิสัย 200 องศา

photo by haruo_osakana   /   embedded from Instagram

ที่นี่เป็นสถานที่ยอดนิยมในฐานะที่เป็นจุดชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่สามารถเดินทางจากในตัวเมืองฟุกุโอกะได้แบบง่าย ๆ สบาย ๆ ซึ่งจากหอชมวิวที่ตั้งอยู่บนภูเขาโคเมะโนะยามะที่ความสูง 594 เมตรจากระดับน้ำทะเลนั้น มีพาโนรามาขนาดใหญ่ที่แผ่ไปทั่วจากในตัวเมืองฟุกุโอกะ อ่าวฮากาตะ เมืองซาซากุริมาจิ ไปจนถึงเมืองโอโนะโจ ซึ่งพื้นที่นั้นกว้างไกลไปด้วยทัศนวิสัย 200 องศา ท่านจึงสามารถเพลิดเพลินไปกับแสงไฟในเมืองได้ในขอบเขตที่กว้างขวางแบบสุด ๆ ไปเลย

แม้ว่าที่นี่จะเรียกว่าเดินทางมาจากที่อื่นได้ง่าย ๆ ไม่ได้ก็ตาม แต่สุดยอดทัศนียภาพที่รอท่านอยู่หลังจากที่เดินทางมาถึงนั้นเรียกได้ว่าเป็นรางวัลที่แสนคุ้มค่าโดยแท้ แล้วด้วยลักษณะพิเศษของที่นี่ที่ไม่มีรั้วและราวกั้น ทำให้ท่านสามารถชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนจากในรถได้ด้วย แม้จะเป็นวันที่หนาวเหน็บในฤดูหนาวก็วางใจได้ อีกทั้ง ที่ลานกว้างชมวิวยังมีม้านั่งตั้งอยู่ ท่านที่อยากจะชมวิวอย่างชัดเจนยิ่งขึ้นก็สามารถมานั่งชมได้ แล้วถ้ายิ่งได้นอนกลิ้งอยู่บนทางลาดสนามหญ้านุ่ม ๆ แล้วล่ะก็ คงจะชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนได้อย่างผ่อนคลายยิ่งกว่าเดิมเสียอีก

6． “ทิวทัศน์โรงงานยามค่ำคืนที่คิตะคิวชู” ที่สามารถเพลิดเพลินไปได้ในขณะที่ล่องเรือ

เมืองคิตะคิวชูนั้นมี “โรงทำเหล็กยาฮาตะที่บริหารจัดการโดยรัฐบาล” ซึ่งได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี 2015 ในฐานะที่เป็น “มรดกแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมญี่ปุ่นในยุคเมจิ (Sites of Japan’s Meiji Industrial Revolution)” ซึ่งที่นี่เป็นสถานที่ที่เป็นจุดเริ่มต้นประวัติศาสตร์แห่งการผลิตเหล็กที่ได้ดึงอุตสาหกรรมญี่ปุ่นให้ก้าวหน้าขึ้นไป อีกทั้งยังเคยเป็น 1 ในเขตอุตสาหกรรมที่สำคัญทั้งสี่ในอดีต และยังเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองคิตะคิวชูอีกด้วย ซึ่งกลุ่มโรงงานที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับชายทะเลนั้น ได้รับการเรียกขานว่าเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งทิวทัศน์โรงงานยามค่ำคืนเมื่อไม่กี่ปีมานี้ด้วย

แม้ว่าจะสามารถดูจากภูเขาทากาโทหรือภูเขาซารากุระในเมืองได้ด้วยก็ตาม แต่เราแนะนำให้ดูจากบนทะเล ท่านสนใจที่จะมาลองล่องเรือในระบบจองล่วงหน้าที่สามารถเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์โรงงานยามค่ำคืน แล้วมาสนุกไปกับทิวทัศน์ยามค่ำคืนในย่านตัวเมืองและโรงงานกันดูไหม? ซึ่งทัวร์ล่องเรือที่บริษัทคันมงคิเซ็นเป็นผู้ดำเนินการนั้น จะมีเนวิเกเตอร์คอยให้คำแนะนำเกี่ยวกับทิวทัศน์โรงงานยามค่ำคืนอยู่ด้วย ทิวทัศน์โรงงานยามค่ำคืนที่สามารถรับชมได้จากบนเรือนั้น จะต้องเป็นความทรงจำสุดวิเศษของท่านอย่างไม่ต้องสงสัยเลยล่ะ

7． “ศาลเจ้าโคระไทฉะ” จุดชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนอันศักดิ์สิทธิ์ที่อัดแน่นไปด้วยประวัติความเป็นมากว่า 1600 ปี

photo by mika_oct25   /   embedded from Instagram

ศาลเจ้าโคระไทฉะที่เป็นศาลเจ้าอันดับหนึ่งในจิคุโกะโนะคุนินั้น เป็นศาลเจ้าซึ่งตั้งอยู่ใกล้ยอดเขาโคระที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 1600 ปี กล่าวกันว่าในยุคเอโดะนั้นได้รับเลื่อมใสศรัทธาจากเจ้าแคว้นคุรุเมะในแต่ละรุ่นเป็นอย่างมาก แม้แต่ในปัจจุบันนี้เองก็ยังคงมีผู้คนมาเยือนเพื่อขอพรเรื่องอายุยืนยาวและขับไล่ความอัปมงคลอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ เส้นทางที่มาถึงศาลเจ้าโคระไทฉะยังเป็นที่นิยมในฐานะที่เป็นเส้นทางขับรถอีกด้วย ในตอนกลางคืนก็จะมีผู้คนมาเยือนเพื่อเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ยามค่ำคืน

ทางด้านในที่ทำการของศาลเจ้าโคระไทฉะนั้น เป็นหอชมวิวที่สามารถชมพื้นที่ตัวเมืองคุรุเมะไปจนถึงพื้นที่โทซุได้ทั่วเลย แม้ว่าจะต้องเดินขึ้นบันไดจากที่จอดรถ แต่ถ้าไม่ใช่ช่วงเวลาที่สายเกินไป ท่านก็จะสามารถเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศอันชวนฝันด้วยแสงสว่างจากโคมไฟได้ ถ้าได้แวะมาเยือนตั้งแต่ตอนเย็นแล้วล่ะก็ ท่านก็จะสามารถเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ยามค่ำคืนได้ในเวลาเดียวกับการนมัสการศาลเจ้าโคระไทฉะได้เลย นี่ล่ะคือสาเหตุที่ทำให้ได้รับความนิยม! ลองหาโอกาสแวะมาดูสักครั้งดีไหม?

8． “ป่าชิโอจิเคนมิน” จุดชมวิวที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักที่อยู่ใกล้ ๆ ศาลเจ้าดาไซฟุเท็นมังงู

photo by shimi____   /   embedded from Instagram

“ป่าชิโอจิเคนมิน” ที่กินพื้นที่ในภูเขาชิโอจิไปถึงประมาณ 342ha (ประมาณ 3.42 ตารางกิโลเมตร) นั้น เป็นที่นิยมมากในฐานะที่เป็นสถานที่ที่สามารถเพลิดเพลินไปกับซากุระในฤดูใบไม้ผลิ และใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง! อีกทั้ง สถานที่ซึ่งเปี่ยมไปด้วยธรรมชาติแห่งนี้ ก็ยังเป็น 1 ในจุดชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนด้วย นอกจากนี้ ยังเดินทางมาได้สะดวกด้วยรถยนต์เพียงราว ๆ 15 นาทีจากศาลเจ้าดาไซฟุเท็นมังงู

ระหว่างทางมาที่นี่ก็ยังมีจุดชมวิวด้วย ถึงแม้ว่าจะพอมีจุดชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่สามารถนั่งชมบนรถได้อยู่บ้างก็ตาม แต่จุดชมวิวแนะนำจากอยู่จุดที่ต้องเดินจากที่จอดรถมาแล้วปีนขึ้นไปนิดหน่อย ซึ่งจะมีแสงไฟจากเมืองตั้งแต่ดาไซฟุไปจนถึงคุรุเมะและโทซุแผ่ไปทั่วเบื้องล่างสายตาของท่านเลย แล้วถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงสุดสัปดาห์ก็ยังถือว่าค่อนข้างว่างเมื่อเทียบกับที่อื่น เรียกได้ว่าเป็นจุดชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนดี ๆ ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักในจังหวัดฟุกุโอกะได้เลย ในช่วงกลางวันท่านจะมาเที่ยวชมศาลเจ้าดาไซฟุเท็นมังงูหรือพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติคิวชูที่อยู่ใกล้ ๆ แล้วในช่วงกลางคืนก็มาชมทิวทัศน์ยามค่ำคืน จากนั้นไปอาบน้ำที่ฟุสุกะอิจิออนเซ็นก็คงจะดีไม่น้อย ลองมานำไปพิจารณาเป็นสถานที่ปลายทางการเดินทางของท่านดูหน่อยไหม?

9． “สวนสาธารณะทาคาโทยามะ” ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางทิวทัศน์ยามค่ำคืนแห่งญี่ปุ่น

ที่นี่เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่บริเวณยอดเขาของภูเขาทาคาโท (ทาคาโทยามะ) ซึ่งมีความสูง 124 เมตรจากระดับน้ำทะเล แม้จะนับทั่วคิตะคิวชู ที่นี่ก็ยังถือว่าเป็นจุดชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่มีชื่อในระดับที่ต้องเติมคำว่าสุดยอดลงไปเลย ซึ่งทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่เห็นได้จากที่นี่นั้นงดงามมากถึงขนาดได้รับการรับรองว่าเป็น “มรดกทางทิวทัศน์ยามค่ำคืนแห่งญี่ปุ่น” เลยทีเดียว โดยในสวนสาธารณะก็ได้ตั้งหอชมวิวไว้อย่างเพียบพร้อม รวมถึงฟุตไลท์และห้องน้ำด้วย ทำให้ท่านสามารถเพลิดเพลินไปกับการชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนได้อย่างสบายใจ ซึ่งจากหอชมวิวก็จะเห็นแสงไฟจากเขตอุตสาหกรรมไปจนถึงย่านเมืองโดยเน้นที่สะพานวากาโตะแผ่ไปทั่วสายตา

เนื่องจากโดยรวมของที่นี่จะมีไฟสีส้มอยู่มาก ทำให้เพียงแค่ได้มองก็ทำให้รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างน่าประหลาดแล้ว ช่างเป็นจุดชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่สวยงามจนชวนฝันด้วยทะเล สภาพเมืองที่มีอาคารเรียงราย โรงงาน และสะพานที่มารวมกันอยู่ราวกับเป็นภาพวาดภาพหนึ่งเลยจริง ๆ อีกทั้ง ยังเดินทางจากพื้นที่ในเมืองได้ไม่ยาก จึงมีข้อดีอยู่ที่การเดินทางสะดวกอีกด้วย ขอให้ลองหาโอกาสแวะไปกันนะ!

10． “ห้องชมวิวที่ฟุกุโอกะทาวเวอร์” ที่ท่านต้องตกตะลึงไปด้วยพาโนรามาขนาดใหญ่ที่หมุนได้ถึง 360 องศา

ที่นี่คือหอคอยที่สูง 234 เมตรที่สร้างขึ้นมาอย่างมีเอกลักษณ์ที่ปกคลุมไปด้วยกระจกกึ่งโปร่งใส แล้วถ้านับเฉพาะหอคอยตามชายหาดแล้ว ที่นี่ก็ถือว่ามีความสูงเป็นอันดับหนึ่งในญี่ปุ่นเลยทีเดียว ซึ่งการจะเดินทางไปถึงห้องชมวิวที่ความสูง 123 เมตรจากพื้นดินนั้น ก็เพียงแค่ขึ้นลิฟต์จากชั้น 1 ไปเพียงแค่ประมาณ 70 นาทีก็ถึงที่หมายแล้ว โดยที่นี่เป็นสถานที่ที่สามารถเพลิดเพลินไปกับพาโนรามาขนาดใหญ่ในทัศนวิสัย 360 องศาที่ไม่มีอะไรมาบดบังเลย

ทางด้านล่างจะเห็นแสงไฟจากรถที่วิ่งอยู่บนทางด่วน อ่าวฮากาตะ ไปจนถึงสภาพอาคารบ้านเมืองเรียงรายในเมืองฟุกุโอกะ ซึ่งทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่แผ่ไปทั่วบริเวณนอกหน้าต่างจนท่านต้องตกตะลึงนั้น จะเรียกว่าเป็นที่หนึ่งในฟุกุโอกะเลยก็ว่าได้ และที่จริงแล้วตัวฟุกุโอกะทาวเวอร์เองก็ได้มีการฉายไฟไลท์อัพไปตามแต่ละฤดูกาลอยู่ด้วย หลังจากที่ท่านได้เพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ยามค่ำคืนจากห้องชมวิวที่ได้รับการคัดเลือกเป็นหนึ่งใน “100 อันดับทิวทัศน์ยามค่ำคืน” แล้ว ก็อย่าลืมชมความงามของฟุกุโอกะทาวเวอร์จากด้านนอกด้วยล่ะ!

มาชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนอันงดงามในจังหวัดฟุกุโอกะกันเถอะ!

เป็นอย่างไรกันบ้าง? จังหวัดฟุกุโอกะนั้นเป็นเมืองสุดวิเศษที่มีทั้งทะเลมีทั้งภูเขา และยังมีศาลเจ้าและวัดที่มีประวัติความเป็นมาเก่าแก่ รวมถึงจุดชมวิวสวย ๆ อยู่อีกมากมาย แล้วแน่นอนว่าจุดชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนก็มีอยู่เพียบเลย ซึ่งเราได้แนะนำจุดชมวิวเด็ด ๆ รวมถึงสถานที่ที่คนในพื้นที่แวะไปเงียบ ๆ ให้ท่านได้รู้จักไปหลายที่แล้ว ไหน ๆ ก็ได้มีโอกาสมาถึงจังหวัดฟุกุโอกะแล้วล่ะก็ ขอให้ได้ลองมาใช้เวลาสุดวิเศษไปกับคนสำคัญของท่านในขณะที่ชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนกันให้เต็มที่เลยนะ!