【อันดับซูชิ(sushi)ยอดนิยมในฟุกุโอกะ】บประกันความอร่อยโดยชาวญี่ปุ่น!!

ทะเลแห่งฟุกูโอกะนับได้ว่าเป็นขุมสมบัติย่อมๆเนื่องจากมีปลาแสนอร่อย และหากจะลิ้มลองรสชาตินั้นแน่นอนว่า เมนูที่เข้ากันที่สุดคือ “ซูชิ” ในเมืองฟุกูโอกะมีร้านซูชิหลายแบบตั้งแต่ร้านหรูที่อยากจะไปกินในโอกาสสำคัญๆ จนถึงร้านที่แวะเข้าไปกินตามท้องถนนได้ง่ายๆ ในวันนี้เราขอนำเสนอร้านซูชิ 10 อันดับ ซึ่งคุณสามารถเลือกได้ตามความชอบใจและงบในกระเป๋าคุณกันเลย

1. ลิ้มรสซูชิตามฤดูกาลกับคอรส์โอมาคาเสะที่”เทนซูชิ” สาขาเคียวมาจิ (Tensushi Kyomachiten)

photo by miyu0302   /   embedded from Instagram

”เทนซูชิ” สาขาเคียวมาจิ เป็นร้านซูชิสุดหรูที่ได้รับความนิยมจากผู้คนมากมายที่มาเยือน และมีความเป็นส่วนตัวกับที่นั่งแบบเคาท์เตอร์ 5 ที่นั่ง เป็นร้านที่เน้นการนำปลาตามฤดูกาลมาเป็นวัตถุดิบและกรรมวิธีการทำที่ส่งต่อผ่านรุ่นสู่รุ่น จนถึงปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 2 จนคนเรียกว่าเป็นร้านซูชิ “อันดับหนึ่ง”แห่งฟุกูโอกะ

ร้านนี้เน้นให้คุณรับรสชาติของอาหารอย่างแท้จริง จึงไม่มีการเสริฟอาหารเคียงหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเมนูก็มีเพียงแค่ คอรส์“โอมาคาเสะ”เพียงเท่านั้น อีกทั้งไม่ใช้โชยุ แต่จะใช้เกลือและ “ซุดาจิ” เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของร้าน ไม่เพียงแต่รสชาติอาหารแต่รูปลักษณ์ภายนอกยังสวยงามปานงานศิลปะ ถึงแม้ว่าจะห่างจากฮากาตะแต่ก็คุ้มจะที่เดินทางไปลิ้มลอง

2. ร้านที่ได้ดาวมิชลิน ! “เกียวเทน” (Gyoten)

photo by sanghyun0822   /   embedded from Instagram

ร้านที่อยู่ในหนังสือ“รวมร้านที่ได้ดาวมิชลินจังหวัดฟุกูโอกะและจังหวัดซากะ ประจำปี 2014ฉบับพิเศษ”นั้น คือร้าน “เกียวเทน” ดูจากการตกแต่งภายนอกด้วยรั้วไม้ไผ่ ทำให้สัมผัสได้ถึงลมธรรมชาติ ร้านนี้เข้มงวดเรื่องวัตถุดิบเป็นอย่างมาก ต้องผ่านการสรรหาจากเจ้าของร้านเท่านั้น

หลังเคาท์เตอร์นั้นเจ้าของร้านกำลังขะมักเขม้นกับการทำซูชิให้เราได้ทาน ที่นี่มีสาเกญี่ปุ่นหลายชนิดให้เราได้เลือก ลองสั่งมาทานแกล้มกับซูชิดูซิ

แต่ก่อนก็เป็นร้านที่จองโต๊ะได้ยากมาก และยิ่งมากขึ้นกว่าเดิมหลังจากได้รับดาวมิชลิน ก่อนที่จะไปต้องอย่าลืมโทรจองก่อนล่ะ

3. ทานปลาด้วยวิธีปรุงที่อร่อยที่สุดที่ ”ซูชิ ทาคาโอะ” (Sushi Takao)

photo by sohjirou.y   /   embedded from Instagram

เป็นร้านซูชิที่ต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าร้าน ดูภายนอกดูทันสมัยนั้นคือร้าน “ซูชิ ทาคาโอะ” โด่งดั่งในเรื่องวิธีการปรุงที่จะทำให้ทานปลาตามฤดูได้อร่อยที่สุด โดยเฉพาะเมนูปลาขาว dry age

เจ้าของร้านได้ไปฝึกวิชาที่ร้านในโตเกียวก่อนจะมาเปิดร้านนี้ ซูชิที่เค้าทำให้ทานนั้นดูสวยงามจนน่าเสียดายที่จะกินมันเข้าไป ข้าวไม่แข็งจนเกินไปทำให้ช่วยชูรสเนื้อปลา

เมนูพื้นฐานนั้นคือคอรส์ “โอมาคาเสะ” ให้เจ้าของร้านช่วยเลือกหน้าปลาที่อร่อยที่สุด ขอแนะนำให้ทานคู่กับเหล้าญี่ปุ่น มีคนเดินทางมาฟุกุโอกะเพื่อมาร้านนี้โดยเฉพาะก็มี เรียกได้ว่าเป็นอันดับ 1 หรือ 2 ได้เลยทีเดียว ขอแนะนำให้โทรมาจองร้านก่อนนะ

4. ร้านที่คนท้องถิ่นนิยม “คิคุ ซูชิ” (Kiku Sushi)

photo by hi.de04   /   embedded from Instagram

ด้วยคำขวัญของร้านที่จะทำ “ซูชิที่อร่อยที่สุดในวันนั้น” หากเราไปที่ร้าน “คิคุ ซูชิ” แน่นอนว่าเราจะได้ทานของอร่อยๆ โดยเฉพาะร้านนี้เน้นเรื่องการคัดสรรวัตถุดิบที่พิถีพิถันเพื่อจะได้ของที่สดใหม่ เรียกได้ว่าเจ้าของร้านไปเลือกปลาด้วยตัวเองเลยทีเดียว ข้าวที่ใช้ก็เป็นข้าวออแกนิคมาผสมกับข้าวจากจังหวัดซากะแล้วหมักน้ำส้มสายชูแดง

ร้านดั้งเดิมเปิดที่ฮากาตะ ส่วนร้านปัจจุบันเจ้าของเป็นเชฟที่มีประสบการณ์การทำงานในโรงแรมระดับ5ดาวที่ประเทศโมนาโก เนื่องจากร้านอยู่ในเขตที่พักอาศัย ผู้คนที่มาส่วนใหญ่ต่างก็เป็นขาประจำ เป็นร้านที่คนท้องถิ่นนิยมมาทาน โดยนั่งที่เคาท์เตอร์ไม้ที่ทำจากต้นแปะก๊วยอายุมากกว่า 100 ปี และรับประทานซูชิที่อร่อยที่สุดในวันนั้น ที่ทางเชฟได้จัดสรรให้ อะไรจะเลิศกว่านี้อีกล่ะ

5. ทานซูชิแสนอร่อยได้ในราคาย่อมเยาว์ “ซูชิ คาวาโช” (Sushi Kawasho)

photo by hal_t0806   /   embedded from Instagram

ร้านเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่ปี 1947 ที่รวบรวมวัตถุดิบตามฤดูกาลมาทำซูชิแสนอร่อยที่ขึ้นชื่อ ร้าน “ซูชิ คาวาโช” บรรยากาศในร้านดูผ่อนคลายสบายๆแต่ถูกตกแต่งด้วยรายละเอียดเล็กๆน้อยๆตั้งแต่ถ้วยชามจนถึงตะเกียบ ถ้าได้ทานซูชิในร้านหรูแบบนี้ก็ดีสินะ

แต่ทว่าราคานั้นถูกเหลือเชื่อ แค่ 4000เยน ต่อซูชิ 8คำ และหากรวมถึงผลไม้ตามฤดูกาล จะราคา 5000เยน โดยเมนูอื่นๆก็จะแสดงราคาอย่างละเอียด สามารถเลือกสั่งได้โดยไม่ต้องกังวล

บางคนอาจอยากดูเชฟทำซูชิให้เราทานโดยนั่งที่เคาท์เตอร์ แต่ถ้าหากมา 2คนขึ้นไปก็สามารถจองห้องส่วนตัวได้ด้วย เหมาะกับคนที่อยากมาฉลองวันพิเศษในโอกาสพิเศษจริงๆ

6. เมนูอาหารเที่ยงที่ราคาย่อมเยาว์ !(Tatsumi Sushi Sou honten)

photo by hssh_8   /   embedded from Instagram

เปิดทำการตั้งแต่ ปี1980 เป็นร้านซูชิที่เปิดขายแบบห่อกลับบ้านเท่านั้น ปัจจุบันนี้มีถึง 4 สาขาทั่วมุมเมือง วัตถุดิบที่สรรหามาจากทั่วประเทศ และปลาสดๆที่นำมาจากทะเลเกนไก ด้วยความคิดที่ว่า “อยากจะเสริฟอาหารทะเลที่อร่อยที่สุดในวันนั้นๆ” แสดงออกถึงการบริการที่จริงใจ

โดยเฉพาะราคาอาหารเที่ยงที่ย่อมเยาว์ สาขา Sou honten นี้ เปิดบริการอาหารเที่ยงตั้งแต่ 11โมงถึง 14โมง ในราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 1900เยน นอกเหนือจากซูชิแล้ว ยังมีสลัด ไข่ตุ๋น น้ำซุป ขนมหวานอีกด้วย ด้วยบรรยากาศร้านที่สบายๆทำให้ผู้คนติดใจแวะเวียนกันมาเป็นประจำ

7. ร้านที่เป็นหนึ่งในใจคนรักซูชิ “ยามะ นากะ” (Yamanaka)

photo by aitchjayy   /   embedded from Instagram

1ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งร้านในปี 1972 ร้านนี้เป็นที่หนึ่งในใจคนรักซูชิ ร้าน”ยามะ นากะ” ที่เปลี่ยนปลาสดๆจากทะเลเกนไก ให้เป็นซูชิแสนอร่อยด้วยฝีมือขั้นเทพของเชฟ ที่เน้นตั้งแต่วัตถุดิบในการทำอาหารไปจนถึงถ้วยชามและวิธีการจัดวางอาหารให้สวยงาม เรียกได้ว่าทั้งเพลิดเพลินกับรูปร่างและรสชาติอร่อยด้วย

เราสามารถนั่งทานในบรรยากาศสบายๆบริเวณเคาท์เตอร์ชั้น1 ที่ทำจากไม้สนแผ่นเดียวยาวถึง 10เมตร พูดคุยกับเชฟและสั่งอาหารได้โดยตรง
ในบริเวณชั้น 2 ได้แบ่งเป็น 2ส่วน ทั้งโซนห้องส่วนตัวและโต๊ะที่นั่ง เหมาะกับครอบครัวและแขกที่มาเป็นกลุ่ม

8. เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศที่งดงามและรสชาติอร่อย (Sushi Yatai)

photo by jingspam   /   embedded from Instagram

จุดเด่นถ้ามองจากภายนอกคือตู้คอนเทนเนอร์สีดำที่ดูลึกลับ ร้านนั้นคือ “ซูชิ ยาไต” แต่ถ้าได้ลองเข้ามาในร้าน จะพบว่าหลังเคาท์เตอร์นั่นคือทะเล! เราสามารถลิ้มรสซูชิพลางดูวิวที่สุดยอดได้ โดยวัตถุดิบหลักก็คือปลาที่จับได้จากท้องทะเลฮาสุนั้นเอง เพราะคอนเซปของร้านคือ “ซูชิจากทะเลฮาสุ”

ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับท้องทะเลแห่งนี้ เมนูจึงแตกต่างในแต่ละวัน เรียกได้ว่า เราจะได้ลุ้นทุกวันว่าวันนี้จะมีปลาอะไรให้กิน สำหรับอาหารเที่ยงในวันธรรมดาสามารถโทรมาจองได้ตั้งแต่ 2คนขึ้นไป ในเมนูจะมี ซูชิ 7 คำ ซาชิมิ ไข่ตุ๋น นาเบะทะเลในราคาสุดคุ้มแค่ 3500เยน

นอกจากนี้ในเซตจะแถมส่วนลดแช่น้ำร้อนของร้าน”ฮายะตะยะ”ซึ่งอยู่ใกล้ๆกันอีกด้วย ถึงแม้ว่าจะใช้เวลาขับรถจากฮากาตะมาถึง 1ชั่วโมง แต่ก็ถือว่าคุ้มสำหรับคนรักซูชิแน่นอน

9. ร้านซูชิที่มีสาขายอดนิยมทั่วประเทศ “ซูชิ ซันไม” （Sushi Sanmai)

photo by face.yuko.s_trip   /   embedded from Instagram

เป็นร้านที่มีสาขามากกว่า 50 สาขาในคันโต สำหรับเกาะคิวชูนั้น สาขาแรกตั้งอยู่ที่เทนจิน จุดเด่นอยู่ที่ร้านเปิดตลอด 24 ชั่วโมงคล้ายกับร้านสะดวกซื้อ หากนึกอยากจะกินซูชิขึ้นก็มาก็สามารถไปกินได้ทันที โดยเฉพาะสาขาเทนจิน สามารถเดินจากสถานีเทนจิน รถไฟสายนิชิเทตซึ ประมาณ 2นาที แสนสะดวกมากมาย

วัตถุดิบหลักนำมาจากทั้ง”ตลาดปลาซึคิจิ”และเกาะคิวชูเอง ทำให้เราสามารถทานปลาที่สดใหม่ได้ในราคาแสนถูก เมนูในร้านที่ขึ้นชื่อสุดก็คงจะเป็น “ฮงมากุโระ” โดยคัดสรรจากปลามากุโระที่อร่อยที่สุดจากทั่วโลก คนที่ชอบทานปลามากุโระห้ามพลาดโดยเด็ดขาด

10. ร้านยอดนิยมใกล้สถานีฮากาตะ “ซูชิ ยาสุคิจิ” (Sushi Yasukichi)

photo by dsk_fjt   /   embedded from Instagram

ถึงแม้ว่าจะใกล้สถานีฮากาตะ แต่ร้านตั้งอยู่ห่างจากย่านร้านค้าเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของร้าน “ซูชิ ยาสุคิจิ” อาจพูดได้ว่าดูเหมือนเป็นบ้านหนึ่งหลังมากกว่าร้านซูชิเสียอีก เมนูหลักคือคอรส์ “โอมาคาเสะ” ไม่เพียงแต่นำวัตถุดิบที่คัดสรรอย่างดี แต่รูปลักษณ์อาหารก็ถูกบรรจงแต่งอย่างสวยงาม

ในร้านมีที่นั่งเคาท์เตอร์ 7ที่และห้องรับรอง 1 ห้องเท่านั้น เพราะฉะนั้นต้องจองเท่านั้น แต่ทว่าเนื่องจากเป็นร้านยอดนิยมต้องพยายามในการโทรจองหน่อยนะ ร้านนี้ได้รับดาวมิชลิน 2 ดาว แถมยังได้ลงในนิตยสาร”รวมร้านมิชลินในจังหวัดฟุกุโอกะ จังหวัดซากะประจำปี 2014 ฉบับพิเศษ”อีกด้วย ถือว่าเป็นร้านอันดับหนึ่งของฮากะตะเลยก็ว่าได้ ลองมาทานกันดูให้ได้นะ

มาลิ้มรสซูชิที่แสนเลิศกันเถอะ

เป็นยังไงบ้าง จริงๆแล้วฟุกุโอกะเป็นเมืองที่มีร้านอร่อยแสนดังอยู่มากมาย ร้านที่แนะนำไปในวันนี้นี่เพียงแค่ส่วนเดียวเท่านั้น ยังมีร้านอื่นๆอีกรอให้ทุกคนไปเยี่ยมชม หวังว่าคงจะเจอร้านที่ถูกใจ นอกเหนือจากซูชิ ซาชิมิ เราขอแนะนำให้สั่งของทอดต่างๆทานคู่กับเหล้าสาเกก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ลองพูดคุยกับเชฟระหว่างดื่มดั่มกับรสชาติของปลาสดๆที่ฟุกุโอกะกันนะ