【ห้ามพลาด】10 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวในNoboribetsu ฮอกไกโด แนะนำจุดทัวร์โดยชาวญี่ปุ่น!!

หากพูดถึงการแช่ออนเซ็นที่ฮอกไกโดแล้วล่ะก็ คงนึกถึงโนโบริเบ็ซซึออนเซ็นกันใช่ไหมล่ะ โนโบริเบ็ซซึออนเซ็นเป็นที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอย่างมากของญี่ปุ่น แต่ก็คงมีอีกลายคนที่สงสัยกันว่านอกจากการแช่ออนเซ็นแล้ว ที่นี่มีอะไรบ้าง ดังนั้นเราจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมที่น่าสนใจของที่นี่กัน

1. Noboribetsu Jigokudani

Noboribetsu Jigokudani เป็นต้นกำเนิดของโนโบริเบ็ซซึออนเซ็น ซึ่งในแต่ละวันมีนำพุร้อนไหลออกมาประมาณ 1 หมื่นตันต่อวัน Noboribetsu Jigokudani นี้ตั้งอยู่ห่างจากพื้นที่ออนเซ็นประมาณ 3 กิโลเมตร เกิดขึ้นจากการระเบิดของปล่องภูเขาไฟ คุณจะเห็นน้ำพุร้อนและก๊าซพุ่งออกมาในหลายๆที่ ทำให้หลายๆคนมองว่ามันคล้ายนรก แต่ละโรงแรมในพื้นที่นี้มีการจัดเตรียมออนเซ็นไว้ให้ในโรงแรมด้วย

ด้วยเส้นทางเดินเท้าความยาวประมาณ 600 เมตร แค่เวลาเพียง 10 นาทีคุณก็สามารถเดินเที่ยวชมได้จนทั่ว และทางเดินก็สามารถเดินได้อย่างปลอดภัย และในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤศจิกายนจะมีการจัดเทศกาลขึ้น ทำให้ถนนถูกตกแต่งประดับประดาอย่างสวยงาม

2. ดูหมีที่ “Noboribetsu bear park”

photo by chinkun1016   /   embedded from Instagram

Noboribetsu bear park ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 550 เมตรจากหมู่บ้านออนเซ็น เดินทางด้วย Rope way ใช้เวลาประมาณ 4 นาที ภายในจะมีหมีอยู่มากมาย ส่วนแรกจะเป็นของหมีเพศผู้ ส่วนที่สองเป็นหมีเพศเมีย และกิจกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างมากคือการเข้ากรงเพื่อไปสังเกตุเหล่าหมีอย่างใกล้ชิด

และที่นี่ยังมีส่วนของพิพิธภัณฑ์หมีสีน้ำตาลที่มีเพียงแห่งเดียวในโลกอีกด้วย ซึ่งภายในพิพิธภัณฑ์จะรวบรวมข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับหมีสีน้ำตาลไว้ นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับชนเผ่า Ainu อีกด้วย

3. ทะเลสาบที่สวยงามอันดับต้นๆของญี่ปุ่น “ทะเลสาบคุตตะระ”

photo by janewyz33   /   embedded from Instagram

ทะเลสาบคุตตะระเป็นลักษณะวงกลม เส้นรอบวงยาว 8 กิโลเมตรและเส้นผ่านศูนย์กลาง 3 กิโลเมตร ตั้งอยู่ที่อุทยาแห่งชาติชิโคซึโทยะ และเนื่องจากไม่มีแม่น้ำเชื่อมต่อกับทะเลสาบเลย จึงทำมห้น้ำที่นี่ใสเป็นอันดับต้นๆของประเทศ

คุณสามารถมองเห็นลึกลงไปใต้น้ำกว่า 20 เมตรได้ และที่ “Route 350 Lake Cabin” ยังมีเรืองหงส์และเรือพายจัดเตรียมไว้ให้นักท่องเที่ยวยืมได้ กลางเดือนพฤษภาคมถึงปลายเดือนกรกฎาคมยังเปิดให้สามารถตกปลาได้อีกด้วย

4. น้ำพุร้อนธรรมชาติที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ “Oyunuma River Tennen Ashiyu”

photo by robin.tw.jp   /   embedded from Instagram

จากการปะทุของภูเขาไฟทำให้มีกำมะถัน 130 องศาออกมาจากด้านล่างของโอยุนุมะ(Oyunuma) แม่น้ำโอนุยุมะเกิดจากน้ำพุร้อนที่ไหลมาจากโอนุยุมะ

เมื่อเดินไปตามทางเดินคุณจะพบไทโชจิโกกุ(Taisho Jigoku)ซึ่งเกิดขึ้นจากการปะทุของภูเขาไฟ สีของน้ำจะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นสีเทาหรือสีเขียวตามฤดูกาล คุณสามารถเดินชมความสวยงามของธรรมชาติได้แต่ต้องระวังด้วยเนื่องจากอุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพอากาศ หากไปเที่ยวพกผ้าขนหนูไปด้วยก็ดีนะ

5. Noboribetsu Marine Park Nixe

photo by yuyakaibazawa   /   embedded from Instagram

เมื่อเดินข้ามสะพานเข้าไปยังปราสาท Nixe คุณจะพบกับอะควาเรียมซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ Noboribetsu Marine Park Nixe เป็นแทงค์น้ำสูงที่ 8 เมตร เรียกว่าคริสตัลทาวเวอร์ ภายในจะมีปลาเขตร้อนหลายหลายสีสัน นอกจากนั้นยังมีสวนสนุกพร้อมเครื่องเล่นต่างๆให้เด็กได้สนุกสนานอีกด้วย

ภายใน Noboribetsu Marine Park ยังีการแสดงของปลาโลมาและสิงโตทะเล รวมถึงการเดินขบวนพาเรตของนกเพนกวิน คุณสามารถเช็คเวลาการแสดงได้ทางเว็ปไซต์

6. ชิมอาหารขึ้นชื่อของโนโบริเบ็ซซึที่ “Noboribetsu Enma Yakisoba”

photo by kumacho23   /   embedded from Instagram

เมื่อไปเที่ยวต่างถิ่นหลายคนคงอยากลองอาการพื้นถิ่นนั้น สำหรับที่โนโบริเบ็ซซึแล้วมันคือ Noboribetsu Enma Yakisoba ร้านอาหารขึ้นชื่อของโนโบริเบ็ซซึเริ่มต้นเมื่อปี 2005 ด้วยร้าน 22 ร้าน แต่ร้านที่เราอยากจะแนะนำให้ทุกท่านได้ลองทาน Noboribetsu Enma Yakisoba นั้นคือร้านออนเซ็นอิจิบะซึ้งอยู่ที่ถนนโกกุระโดริ มาลองชิมอาหารอร่อยของฮอกไกโดกันเถอะ

7. ออนเซ็นจากธรรมชาติ “Yumemoto Sagiriyu”

photo by maaai_17   /   embedded from Instagram

โนโบริเบ็ซซึออนเซ็นเป็นออนเซ็นที่มีชื่อเสียงเปรียบเสมือนตัวแทนของฮอกไกโด มีน้ำพุร้อนออกมาว่า 1 หมื่นตันในแต่ละวัน ที่โนโบริเบ็ซซึออนเซ็นมีที่พักและโรงแรมกว่า 14 แห่ง มีที่อาบน้ำสาธารณะและที่อาบน้ำกลางแจ้งมากมาย แม้จะไม่ได้มาค้างคืนก็สามารถเข้าใช้บริการได้เหมือนกัน

ที่จะแนะนำในครั้งนี้คือสถานที่ออนเซ็นสำหรับคนที่ไปเช้าเย็นกลับ “Yumemoto Sagiriyu” ที่นี่จะเป็นออนเซ็นจากธรรมชาติจริงๆ ไม่มีการเติมแต่งเพิ่มอุณหภูมิหรือเติมน้ำเข้าไป

8. สัมผัสบรรยากาศแห่งยุคสมัยเอโดะ “Noboribetsu Date Jidai Village”

photo by andriaia   /   embedded from Instagram

Noboribetsu Date Jidai Village เป็นสถานที่ที่คุณสามารถสัมผสบรรยากาศและชมการแสดงเกี่ยวกับยุคสมัยเอโดะได้ มีสเตจภายใน 3 สเตจและภายนอก 1 สเตจ แต่ละการแสดงใช้เวลาประมาณ 20 นาที ที่สเตจกลางแจ้งจะมีการเสดงเกี่ยวกับนินจาด้วย หากคุณเดินเข้าไปในบริเวณหมู่บ้านบรรยากาศภายในจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนกลับเข้าไปในสมัยเอโดะเลยทีเดียว

หากคุณอยากลองสวมชุดนินจาหรือชุดไมโกะ(ชุดแสดงฟ้อนรำแบบญี่ปุ่น)แล้วเก็บภาพเป็นที่ระลึกล่ะก็ ที่นี่ก็มีจัดเตรียมไว้เช่นกัน

บริเวณไทเค็งโดโจสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับการปามีดและยิงธนูได้ และนอกจากนี้ยังมีพื้นที่ที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับนินจาไว้ด้วย แล้วอย่าลืมซื้อของที่ระลึกและถ่ายรูปที่ระลึกกับหอสังเกตุการณ์กลางหมู่บ้านด้วยนะ

9. Kizo Meguri / Enmado

photo byyukikoyyy119   /   embedded from Instagram

ที่โนโบริเบ็ซซึออนเซ็นมีอนุสาวรีย์ยักษ์ทั้งหมด 11 ตน เพราะยักษ์ถูกกำหนดให้เป็นสัญลักษณ์ของเมือง มีตนที่สูงถึง 18 เมตร หนัก 18 ตัน และตนที่สูง 5 เมตรและ 2 เมตรด้วย ยักษ์เหล่านี้ตั้งอยู่ที่เอ็นมาโดะบนถนนเส้นหลักของโนโบริเบ็ซซึ

มีการเปลี่ยนสีหน้าของยกษ์ถึงหกครั้งต่อวัน และทุกๆปีในเดือนสิงหาคมจะมีการจัดเทศกาล “Noboribetsu jigoku”

10. ศูนย์บริการ Noboribetsu Park

photo kobayashi96   /   embedded from Instagram

ก่อนเดินทางไป Jigokudani ลองแวะที่ศูนย์บริการ Noboribetsu Park ดีไหม ที่นี่สร้างโดยไม้เพื่อให้เข้ากับสภาพแวดล้อม ภายในมีวิดีโอแนะนำเยวกับโนโบริเบ็ซซึ และยังมีข่าวสารต่างๆรวมถึงแผ่นพับด้วย หรือจะหาข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ตก็ได้เช่นกัน เพราะที่นี่เตรียมคอมพิวเตอร์พร้อมทั้งต่ออินเตอร์เน็ตไว้ให้ และภายในยังมีภาพถ่ายของนกและพืชบริเวณใกล้เคียงติดโชว์ไว้อีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีร้านค้า ตู้ขายอัตโนมัติ และห้องน้ำจัดเตรียมสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย และในช่วงฤดูหนาวยังมีรองเท้าให้ยืมใช้ฟรีด้วย หากใครมีแผนมาเที่ยว Jigokudani ละก็ อย่าลืมแวะที่นี่นะ

ไปเดินเที่ยวที่โนโบริเบ็ซซึออนเซ็นกันเถอะ

หลายคนไปเที่ยวโนโบริเบ็ซซึเพียงเพื่อแช่ออนเซ็นเท่านั้น คงจะน่าเสียดายหากคุณก็ทำเช่นนั้น ครั้งนี้เราได้แนะนำกิจกรรมอื่นๆในโนโบริเบ็ซซึออนเซ็นกันไปแล้ว หวังว่าทุกๆคนจะลองไปเที่ยวกันนะ