【ห้ามพลาด】10 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวในนารา แนะนำจุดทัวร์โดยชาวญี่ปุ่น!!

นารานั้นเป็นเมืองที่หลายคนรู้สึกว่าจืดชืด ได้แต่หลบอยู่หลังเงาของเมืองเกียวโต แต่จริงๆ แล้วที่นี่เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่อันเป็นเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่นเลยทีเดียว นารามีสถานที่ท่องเที่ยวอยู่อย่างมากมาย และยังมีนักท่องเที่ยวมาเยือนอยู่ตลอดเวลา เราจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่เราคัดสรรเป็นอย่างดีและห้ามพลาดเป็นอันขาด หากท่านได้มาเยือนนาราในครั้งหน้า เก็บหน้านี้เอาไว้เป็นข้อมูลเตรียมเที่ยวนาราได้เลย

1. ชมความงดงามตลอดสี่ฤดูของหุบเขามิตะไร (Mitarai Valley)

1. ชมความงดงามตลอดสี่ฤดูของหุบเขามิตะไร (Mitarai Valley)
photo by kingstftrap   /   embedded from Instagram

หุบเขามิตะไรนั้นเป็นหุบเขาที่สายน้ำบริสุทธิ์ไหลผ่านกลางหุบเขาที่เกิดมาจากหินผาขนาดใหญ่เรียงซ้อนกัน ที่นี่มีทิวทัศน์ของหุบเขาที่กล่าวกันว่างดงามที่สุดในภูมิภาคคินคิ และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม มีนักท่องเที่ยวมาเยือนติดต่อกันเป็นจำนวนมาก

ในแต่ละช่วงของปี หุบเขาจะคอยเปลี่ยนโฉมอวดความงดงามเฉพาะของแต่ละฤดูกาล แต่ทิวทัศน์ที่จะต้องชมให้ได้นั้น เราขอแนะนำฤดูกาลของใบไม้แดงเป็นพิเศษ ท่านสามารถค่อยๆ เดินชมทิวทัศน์ได้ตามถนนสำหรับเดินเล่นเลียบแม่น้ำ ขอเชิญท่านค่อยๆ ใช้เวลาไปกับเมืองนาราที่เวลาค่อยไหลไปอย่างเชื่องช้า

■ข้อมูลพื้นฐาน
สถานที่:หุบเขามิตะไร (Mitarai Valley)
ที่ตั้ง:Kitozumi, Tenkawa Mura, Yoshino Gun, Nara
การเดินทาง:เดินทางโดยรถยนต์จากทางแยกต่างระดับคัทสึรางิ (Katsuragi Interchange) ประมาณ 90 นาที

2. หลุมศพอันมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1000 ปี “อิชิบุไต โคะฟุน” (Ishibutai Kofun)

2. หลุมศพอันมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1000 ปี “อิชิบุไต โคะฟุน” (Ishibutai Kofun)

นาราอันเป็นเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่นนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถชมซากโบราณเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์มากมาย หลุมศพอิชิบุไตโคะฟุนนี้เป็นหลุมศพแบบโคะฟุนที่เป็นสัญลักษณ์ของยุคอาสุกะ และยังมีห้องพระศพหินแนวนอนที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย

ที่นี่เป็นหลุมศพของโซกะ โนะ อุมะโกะ ที่กล่าวกัว่าเป็นผู้มีอำนาจมากในยุคอาสุกะ เทคนิคในการขนย้ายหินก้อนมหึมาเพื่อสร้างหลุมศพขนาดใหญ่โตในยุคนั้นทำให้เรารู้สึกทึ่งจนไม่อาจเก็บความรู้สึกเอาไว้ได้เลย ที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันสมกับเป็นเมืองหลวงเก่า นารา ที่ทำให้เราได้รู้สึกถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สืบต่อเนื่องกันมายาวนานมากกว่า 1,000 ปีของญี่ปุ่น

■ข้อมูลพื้นฐาน
สถานที่:สุสานอิชิบุไต โคะฟุน (Ishibutai Kofun)
ที่ตั้ง:Shimashou, Asuka Mura, Takaichi Gun, Nara
การเดินทาง:นั่งรถบัสสายไปสถานีอาสุกะ (Asuka) จากสถานีคาชิฮาระจินกู (Kashihara Jinguu) ลงที่อิชิบุไต (Ishibutai) เดิน 3 นาที

3. วัดโด่งดังอันเป็นมรดกโลก “ยาคุชิจิ” (Yakushiji Temple)

3. วัดโด่งดังอันเป็นมรดกโลก “ยาคุชิจิ” (Yakushiji Temple)

วัดยาคุชิจินี้มีพระพุทธเจ้ายาคุชิเนียวไร (พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต) เป็นพระประธาน ก่อตั้งขึ้นโดยจักรพรรดิ์เทนมุมาแล้วมากกว่า 1,000 ปี ภายในวัดมีสมบัติชาติมากมายตั้งแต่พระพุทธรูปพระพุทธเจ้ายาคุชิเนียวไรที่เป็นพระประธาน หรืออาคารด้านตะวันออก จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ควรแวะมาดูมากทีเดียว

แน่นอนว่าพระพุทธเจ้ายาคุชินั้นเป็นสิ่งที่ต้องมาชมให้ได้ นอกจากนี้ตัววัดยาคุชิเองยังเป็นสถานที่ที่ได้รับการบันทึกจากยูเนสโก้ว่าเป็น “ส่วนหนึ่งของมรดกทางวัฒนธรรมของเมืองหลวงเก่า นารา” ที่นี่จึงเป็นสถานที่หนึ่งที่หากได้มาเที่ยวชมเมืองหลวงเก่า นารา แล้ว ห้ามพลาดโดยเด็ดขาด

■ข้อมูลพื้นฐาน
สถานที่:วัดยาคุชิจิ(Yakushiji Temple)
ที่ตั้ง:457 Nishinokyo Chou, Nara-shi, Nara
การเดินทาง:ออกจากสถานีนิชิโนะเคียว (Nishi no Kyo) แล้วถึงเลย
HP:http://www.nara-yakushiji.com/

4. ชมทิวทัศน์อันงดงามสุดลูกหูลูกตาบนยอดเขา “วาคาคุสะ” (Wakakusa Mountain)

4. ชมทิวทัศน์อันงดงามสุดลูกหูลูกตาบนยอดเขา “วาคาคุสะ” (Wakakusa Mountain)

ภูเขาวาคาคุสะที่ตั้งอยู่ข้างสวนสาธารณะนารา มีชื่อเสียงว่าหากมองจากไกลๆ แล้วจะเหมือนหมวกสานสามใบ บางทีจึงถูกเรียกว่าเขาสามหมวก (มิคาสะยามะ) ด้วย ทั้งภูเขานี้ปกคลุมด้วยต้นหญ้า จึงเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับคนจำนวนมากทั้งชาวบ้านและนักท่องเที่ยว แต่ละส่วนของภูเขา ท่านสามารถพบเจอกับกวางอันเป็นเสมือนตัวแทนของเมืองนาราได้เรื่อยๆ

จากจุดชมวิวบนยอดเขานั้น ท่านสามารถเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ของตัวเมืองนาราอันงดงามได้ นอกจากนี้ ไม่ใช่เพียงเวลากลางวันเท่านั้น แต่วิวยามกลางคืนของนาราที่ราวกับส่องประกายอย่างสวยงามนั้น จัดว่าเป็นวิวทิวทัศน์ที่อยากจะแนะนำให้กับบรรดาคู่รักให้มาชมกันให้ได้เลย

■ข้อมูลพื้นฐาน
สถานที่:ภูเขาวาคาคุสะ (Wakakusa Mountain)
ที่ตั้ง:Nara-shi, Nara
ค่าเข้าชม:นักเรียนมัธยมต้นขึ้นไป 150 เยน / เด็กสามขวบขึ้นไป 80 เยน
การเดินทาง:เดิน 30 นาทีจากสถานีคินเทตสึนารา (Kintetsu Nara)
HP:http://nara-park.com/

5. สัมผัสบรรดากวางที่แสนน่ารักที่ “สวนสาธารณะนารา” (Nara Park)

5. สัมผัสบรรดากวางที่แสนน่ารักที่ “สวนสาธารณะนารา” (Nara Park)

สวนสาธารณะนารานั้นได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอนุสรณ์สถานธรรมชาติแห่งชาติ สวนสาธารณะแห่งนี้ที่มีกวางนารามากกว่า 1,200 ตัวใช้ชีวิตอยู่เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอันเป็นตัวแทนของนาราที่มีธรรมชาติที่สวยงาม ถ้าหากได้มาเที่ยวที่นาราล่ะก็ การมาที่สวนสาธารณะนาราและสัมผัสกับเหล่ากวาง ถือว่าเป็นคอร์สยอดนิยมเลยทีเดียว

นอกจากนี้แล้วในบริเวณของสวนนี้ยังมีวัดที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และโบราณสถานอีกมากมาย สามารถเพลินเพลินกับสถานที่นี่ได้อย่างจุใจในหนึ่งวัน ยิ่งไปกว่านั้นติดๆ กันยังมีวัดโทไดจิที่เลื่องชื่อจากพระใหญ่ไดบุตสึ จึงเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก

■ข้อมูลพื้นฐาน
สถานที่:สวนสาธารณะนารา (Nara Park)
ที่ตั้ง:Nara-shi, Nara
ค่าเข้าชม:นักเรียนมัธยมต้นขึ้นไป 150 เยน / เด็กสามขวบขึ้นไป 80 เยน
การเดินทาง:เดิน 5 นาทีจากสถานีคินเทตสึนารา (Kintetsu Nara)
HP:http://nara-park.com/

6. ตื่นระทึกไปกับการเดินกลางอากาศที่ “สะพานแขวนทะนิเสะ” (Tanize no Tsuribashi Suspension Bridge)

6. ตื่นระทึกไปกับการเดินกลางอากาศที่ “สะพานแขวนทะนิเสะ” (Tanize no Tsuribashi Suspension Bridge)
photo by 01misaki13   /   embedded from Instagram

สะพานแขวนทะนิเสะนั้นเป็นสะพานแขวนที่พาดอยู่ในหมู่บ้านโทตสึคาวะ และเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นสะพานที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น สะพานแขวนนี้มีความยาวถึง 297 เมตร เป็นสะพานแขวนที่ภูมิใจในการเป็นเหล็กเส้นที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น สะพานแขวนที่แขวนอยู่สูงถึง 54 เมตร พอได้เดินไปบนนั้นแล้ว ทำให้รู้สึกเสียวถึงใจ!

หากลองเดินไปตามสะพานแขวนนี้ดู จะพบว่าความกว้างของสะพานนั้นมีเพียงประมาณ 80 เซนติเมตร และตัวสะพานเองยังสั่นไหวไปทั้งหมด ยิ่งทำให้รู้สึกตื่นระทึก เราจึงขอแนะนำให้ท่านได้ลองเดินใจเต้นระทึกไประหว่างข้าม เพื่อสัมผัสความรู้สึกราวกับเดินอยู่กลางอากาศและรู้สึกถึงความเสียววาบจากการเดินอยู่ตรงนั้น ที่นี่เป็นอีกจุดหนึ่งในนาราที่เราอยากจะแนะนำเป็นอย่างยิ่ง

■ข้อมูลพื้นฐาน
สถานที่:สะพานแขวนทะนิเสะ (Tanize no Tsuribashi Suspension Bridge)
ที่ตั้ง:Uenoji, Totsukawa mura, Yoshino gun, Nara
การเดินทาง:เดินทางโดยรถยนต์จากทางแยกต่างระดับคัทสึรางิ (Katsuragi Interchange) ประมาณ 90 นาที

7. ล่องไปตามสายน้ำชมธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ที่เมืองนาราภูมิใจที่ “ช่องเขาโดโระเคียว” (Dorokyo Gorge)

7. ล่องไปตามสายน้ำชมธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ที่เมืองนาราภูมิใจที่ “ช่องเขาโดโระเคียว” (Dorokyo Gorge)
photo by rico_arrs   /   embedded from Instagram

ช่องเขาโดโระเคียวที่ได้รับการจัดให้เป็นอนุสรณ์สถานธรรมชาติชั้นพิเศษเป็นช่องเขาขนาดใหญ่ที่พาดผ่านไม่ใช่เพียงแค่จังหวัดนาราเท่านั้น แต่ยังเลยไปถึงจังหวัดมิเอะหรือจังหวัดวาคายามะด้วย ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในบรรดาสถานที่ยอดนิยมสำหรับท่านที่ต้องการจะสัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ของจังหวัดนารา ที่นี่มีหินผาทั้งใหญ่โตหรือมีรูปร่างประหลาด ด้วยทิวทัศน์อันยิ่งใหญ่และงดงามนี่เองที่ทำให้สถานที่นี่ถูกเรียกว่าเป็นสมบัติทางธรรมชาติชั้นพิเศษมาตั้งแต่สมัยก่อย

ณ สถานที่แห่งนี้ ท่านยังสามารถสนุกสนานไปกับการล่องเรือชมวิวตามสายน้ำ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เราขอแนะนำ หลังจากเที่ยวชมช่องเขาโดโระเคียวแล้ว เราจะขอแนะนำให้ท่านไปเพลินเพลินกับออนเซนชื่อดังที่อยู่ใกล้เคียงอย่าง “เซนนินออนเซน” อีกด้วย

■ข้อมูลพื้นฐาน
สถานที่:ช่องเขาโดโระเคียว (Dorokyo Gorge)
ที่ตั้ง:บริเวณ Totsukawa Mura, Yoshino Gun, Nara

8. ศาลเจ้าที่เป็นต้นแบบในอนิเมชั่นเรื่อง Spirited Away “ศาลเจ้าคาสุกะไทชะ” (Kasuga Taisha Shrine)

8. ศาลเจ้าที่เป็นต้นแบบในอนิเมชั่นเรื่อง Spirited Away “ศาลเจ้าคาสุกะไทชะ” (Kasuga Taisha Shrine)

ศาลเจ้าคาสุกะไทชะที่ได้รับการบันทึกเป็นมรดกโลกนั้น ถูกบันทึกให้เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลก “มรดกทางวัฒนธรรมแห่งเมืองหลวงเก่านารา” และเป็นศาลเจ้าที่มีประวัติยาวนาน ที่นี่เป็นศาลเจ้าหลักของศาลเจ้าคาสุกะที่มีอยู่ทั่วประเทศมากกว่า 1,000 แห่ง ก่อตั้งขึ้นเพื่อบูชาเทพประจำตระกูลฟูจิวาระ

การร่ายรำหน้ากากของคาสุกะไทชะนั้น ถูกกล่าวกันว่าเป็นต้นแบบของตัวละคร “ท่านคาสุกะ” ที่ปรากฏในอนิเมชั่นเรื่อง “Spirited Away” ของ Studio Ghibli ที่โด่งดัง นี่ถือเป็นโอกาสดีเยี่ยมที่ท่านจะได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนานและทรงคุณค่าของญี่ปุ่น หากท่านมีโอกาสได้มาเยี่ยมนารา ขอให้ท่านแวะมาเยือนยังศาลเจ้าคาสุกะไทชะให้ได้เลย

■ข้อมูลพื้นฐาน
สถานที่:ศาลเจ้าคาสุกะไทชะ (Kasuga Taisha Shrine)
ที่ตั้ง:160 Kasugano Chou, Nara-shi, Nara
ค่าเข้าชม:500 เยน
HP:http://www.kasugataisha.or.jp/

9. สถานที่ระลึกถึงเจ้าชายโชคุไทชิซึ่งมี ทิวทัศน์ที่งดงามของเจดีย์ห้าชั้น “วัดโฮริวจิ” (Horyuji Temple)

9. สถานที่ระลึกถึงเจ้าชายโชคุไทชิซึ่งมี ทิวทัศน์ที่งดงามของเจดีย์ห้าชั้น “วัดโฮริวจิ” (Horyuji Temple)
photo by kenmaya.1ban   /   embedded from Instagram

วัดโฮริวจิอันเป็นที่รู้จักกันในฐานะสถาปัตยกรรมจากไม้ที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น วัดนี้เป็นวันอันมีประวัติศาสตร์ และยังเป็นวัดที่มีความเกี่ยวข้องกับเจ้าชายโชโทคุไทชิอีกด้วย วัดโฮริวจิที่มีเจดีย์ห้าชั้นที่โด่งดังไปทั่วโลกนั้นยังเป็นจุดท่องเที่ยวที่นิยมเป็นอย่างมากสำหรับนักท่องเที่ยวในจังหวัดนารา

แม้จะเป็นวัดที่สร้างในศตวรรษที่ 7 แต่ก็ยังคงสภาพที่งดงามมาจนถึงทุกวันนี้ นอกจากเจดีย์ห้าชั้นที่ต้องมาชมให้ได้แล้ว ที่วัดนี้ยังมีจุดน่าแวะอีกมากมาย ขอเชิญท่านมาสัมผัสสถาปัตยกรรมจากไม้ที่เก่าแก่ที่สุดอันเป็นตัวแทนของเมืองหลวงเก่า นารา ด้วยตาของท่านเอง ท่านจะต้องมองตาค้างไปกับความงดงามนี้แน่นอน

■ข้อมูลพื้นฐาน
สถานที่:วัดโฮริวจิ (Horyuji Temple)
ที่ตั้ง:1-1, Horyujisannai, Ikaruga Cho, Ikoma Gun, Nara
เวลาเข้าชม:8:00 ~ 17:00 (วันที่ 4 พฤศจิกายน – 21 กุมภาพันธ์ เข้าชมได้ถึง 16:30)
ค่าเข้าชม:บุคคลทั่วไป 1,500 เยน / เด็กประถม 750 เยน
การเดินทาง:เดิน 20 นาทีจากสถานีโฮริวจิ (Horyuji)
HP:http://www.horyuji.or.jp/

10. สัมผัสพลังอันน่าเกรงขามจากพระใหญ่ไดบุตสึที่โด่งดัง ณ “วัดโทไดจิ” (Todaiji Temple)

10. สัมผัสพลังอันน่าเกรงขามจากพระใหญ่ไดบุตสึที่โด่งดัง ณ “วัดโทไดจิ” (Todaiji Temple)

“วัดโทไดจิ” เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังที่สุดของจังหวัดนารา และมีพระใหญ่ไดบุตสึแห่งนาราประดิษฐานเป็นพระประธาน ที่นี่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาเยือน และครึกครื้นอยู่เสมอ พระไดบุทสึขนาดมหึมาอันเป็นสัญลักษณ์ของวัดโทไดจินั้น เพียงแค่มองดูก็รู้สึกได้ถึงพลังอันน่าเกรงขามแล้ว

เสาใหญ่โตในอาคารเดียวกับพระใหญ่นั้นมีรูขนาดเท่ากับรูจมูกขององค์พระอยู่ ท่านจะสามารถสัมผัสได้ถึงความใหญ่โตได้จากตรงนั้น นอกจากนี้บริเวณรอบวัดยังเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดนารา เริ่มตั้งแต่สวนสาธารณะนารา เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งก็คือท่านสามารถวนเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่อื่นๆ ได้ในครั้งเดียว

■ข้อมูลพื้นฐาน
สถานที่:วัดโทไดจิ (Todaiji Temple)
ที่ตั้ง:406-1, Zoshi Cho, Nara-shi, Nara
ค่าเข้าชม:เด็กมัธยมต้นขึ้นไป 500 เยน / เด็กประถม 300 เยน
การเดินทาง:เดิน 20 นาทีจากสถานีคินเทตสึนารา (Kintetsu Nara)
HP:http://www.todaiji.or.jp/

มาลองสัมผัสกับประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นผ่านการท่องเที่ยวเมืองหลวงเก่า นารากันดีกว่า!

เป็นอย่างไรกันบ้าง? นาราที่ยังคงหลงเหลือร่องรอยของประวัติศาสตร์จากอดีตที่แสนยาวนานย่อมต้องมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์อยู่มากมาย สภาพในปัจจุบันที่ได้สืบทอด เล่าขานประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 1,000 ปีนั้นช่างสุดยอดเหนือคำบรรยาย ในการเดินทางมาเที่ยวประเทศญี่ปุ่นนั้น แน่นอนว่านาราย่อมเป็นสถานที่หนึ่งที่จะพลาดไม่ได้เลยทีเดียว!

กด『ถูกใจ』
หากคุณชอบบทความนี้
ส่งทุกข้อมูลล่าสุดจาก SeeingJapan ถึงมือคุณ


อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม



บทความยอดนิยมในหมวดหมู่เดียวกัน


ผู้เขียนบทความ