【ห้ามพลาด】10 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวในAsahikawa, ฮอกไกโด แนะนำจุดทัวร์โดยชาวญี่ปุ่น!!

ในเมืองอาซาฮิกาว่ามีประชากรมากมายระดับที่๒ในฮอกไกโด ปัจจุบันนี้ในเมืองเจริญขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังมีธรรมชาติและสถานที่น่าดูมากมาย จากอาซาฮิกาว่าเดินทางได้ที่เมืองบิเอะ ฟุราโนะและไดเซ็ตสึซัง คราวนี้เราขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในอาซาฮิกาว่า และขอใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อวางแผนการเดินทางนะครับ

1． ควรที่จะไปแน่ๆ สถานที่ท่องเที่ยวในอาซาฮิกาว่า “ สวนสัตว์อะซาฮิยาม่า “

“ สวนสัตว์อะซาฮิยาม่า “เป็น สถานที่ท่องเที่ยวนิยมมากที่สุดในอาซาฮิกาว่า ด้วยการออกแบบพื้นที่จัดแสดง คุณสามารถชมชีวิตของสัตว์จริงๆ เช่น ยีราฟ สิงโต เพนกวิน หมีขาวและต่างๆ ในสวนนี้มีสัตว์บกถึงทะเลหลายอย่าง

น่าทึ่งมากจริงๆ เพราะคุณสามารถชมสัตว์ต่างๆ จากมุมที่แตกต่างกัน! เมื่อผ่านอุโมงค์ใต้น้ำก็จะเห็นฟรีเพนกวินและแมวน้ำที่กำลังว่ายน้ำ หมีขั้วโลกจะกระโดดลงไปในน้ำอย่างไดนามิก แพนด้าแดงข้ามสะพานแขวนความสูง 3.5 เมตร ลิงอุรังอุตังปีนขึ้นไปหอคอยสูงของ 17 เมตร

มีช่วงเวลาที่ให้อาหารสัตว์ เรียกว่า”โมะกุโมะกุ ไทม์ “ แต่ว่าแต่ละสัตว์เวลาไม่เหมือนกันดังนั้น ก่อนที่จะเข้าไปในสวนสัตว์นี้ ขอเช็คเว็บไซด์นะครับ แน่นอนเราก็หิวข้าว ในสวนนี้มีร้านอาหารและร้านค้า แต่ตอนเที่ยงคนเยอะ ดังนั้นแนะนำว่าก่อนเที่ยงหรือหลังเที่ยงไปดีกว่านะครับ ร้านเหล่านั้นก็นิยมด้วย

2． คุณเคยมีประสบการณ์โลกของลบ 15 ℃หรือไม่? “พิพิธภัณฑ์หิมะ”

photo by dragonjiang_   /   embedded from Instagram

ในช่วงฤดูหนาวของฮอกไกโด คุณสามารถชมดูทิวทัศน์หิมะของญี่ปุ่นๆ อย่างไรก็ตาม ถ้าไปเที่ยวในช่วงฤดูอื่นๆหรือจังหวะเวลาไม่ดี คุณไม่ได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์นั้น คุณต้องการ

ชมดูทิวทัศน์หิมะจริงๆเหรอ ถ้าอย่างนั้น ลองไป “พิพิธภัณฑ์หิมะ”นี่เอง เมื่อเข้าไปข้างใน ตอนแรกเราจะลงใต้ดิน18เมตรโดยบันไดเกลียวเป็นรูปหกเหลี่ยมที่เลียนแบบผลึกหิมะ

จากนั้น คุณมอง”ทางเดินของน้ำแข็ง”ความยาว60เมตรและสองข้างทางมีโลกลบ 15 ℃ ที่มีน้ำแข็ง แล้วจะพบกับ”หิมะห้องคริสตัล”ซึ่งเป็นห้องหลัก ในห้องนี้มีภาพของผลึกหิมะจริงประมาณ 200ภาพสวยมากเหมือนSutendo Glass นอกจากนี้ มีบริการยังเป็นที่นิยมเรียกว่า ” ประสบการณ์เจ้าหญิง “ คือสวมชุดเจ้าหญิง และถ่ายภาพที่ระลึกได้ ลองไปหาและชมผลึกหิมะหลายอย่างในพิพิธภัณฑ์นี้

3． “ฟาร์มอุเอโนะ” ซึ่งเป็นตัวแทนของสวนฮอกไกโด

photo by maedango_3   /   embedded from Instagram

“ฟาร์มอุเอโนะ”เริ่มขายข้าวเอกชนในปี1989 สำหรับลูกค้าที่มาที่ฟาร์มนี้ได้ปลูกดอกลูพินและดอกคาโมมายล์และอื่น ๆ ตามริมถนนทุ่งนา จากนั้น เริ่มปลูกดอกไม้ต่างๆในแปลงดอกไม้ และยังมีใน “สวนแม่” เป็นพืชที่เติบโตขึ้นในสภาพภูมิอากาศของฮอกไกโดเท่านั้น
ดังนั้น “ฟาร์มอุเอโนะ” ซึ่งเป็นตัวแทนของสวนฮอกไกโด

ในสวนนี้มีพืชมากกว่า900ชนิดตามฤดูและสวยงาม คุณสามารถเดินเล่นอตามสบาย ที่โน่นที่นี่มีที่หยุดพักและถ่ายรูปได้ดี หลังจากเดินเล่นๆ เราขอแนะนำร้านกาแฟโดยดัดแปลงกระต๊อบที่สร้างมานานกว่า 65 ปีก่อน คุณสามารถลิ้มรสอาหารและขนมหวานโดยใช้วัตถุดิบของฮกไกโด เช่นแกงกะหรี่ญี่ปุ่นและเครปฝรั่งเศส แม้หลังจากช่วงปิดสวนแล้ว ก็ร้านกาแฟเปิดบริการอยู่ คุณจะแวะไปได้ เมื่อขับรถระหว่างทาง

4． ”บริษัท ทากาซะโกะ ชูโซะอุ”ที่สามารถเข้าชมไอซ์โดมได้ เฉพาะที่นี่เท่านั้น

photo by mmtu888   /   embedded from Instagram

“บริษัท ทากาซะโกะ ชูโซะอุ” เริ่มต้นตั้งแต่ปี1899 ที่บริษัทผลิตสาเกซึ่งเป็นตัวแทนของฮอกไกโด แน่นนอน คนท้องถิ่นชอบและคนต่างจังหวัดด้วย ห้องเก็บของสาเกถูกสร้างในปี1909สมัยเมจิ มีค่ามากเป็นประวัติการณ์ ดังนั้นตั้งแต่ปี1997 เริ่มบริการเยี่ยมชม คุณสามารถชมการผลิตของแบรนด์ตัวแทนของบริษัท ทากาซะโกะ ชูโซะอุ มีชือว่า”โคะคุซิมุโซ”（国士無双）และคุณจะเห็นไอซ์โดมเฉพาะในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น

ไอซ์โดมก็คือเป็นสถานที่ที่แช่แข็งและรอให้มีหยดเดียวตกโดยไม่ต้องใช้แรงดันกับถุงสาเกที่แขวนอยู่ แบรนด์ที่เป็นตัวแทนมีชื่อว่า”อิชิยะ ซิซุกุ” และที่ร้านค้าโดยตรงขายเหล้าสาเกตามฤดูกาลและสาเกที่ขายที่นี่เท่านั้น คุณสามารถซื้อของฝากด้วย เช่นทีเชิ้ตหรือผ้ากันเปื้อนและของออริจินัล ค้มค่าที่จะไป!

5． ”คลาร์กฮอร์สการ์เด้น”ซึ่งคุณสามารถขี่ม้าได้อย่างจริงจัง

photo by shusakuonozuka   /   embedded from Instagram

ในบรรยากาศของชาวอเมริกันที่เก่าแก่ดี คุณอยากขี่ม้าสไตล์คาวบอยตะวันตกอย่างจริงจังไหม? แม้ว่าผู้เริ่มต้นก็ขี่ม้าได้และมีคอร์สสำหรับเด็กด้วย และจริงๆแล้ว คุณสามารถขี่ม้าได้ในช่วงฤดูหนาวเช่นเดียวกับฤดูร้อน! เมื่อขี่ม้าในทุ่งหญ้าที่สวยงามก็สนุกสนาน หรือคุณจะขี่ม้าในแผ่นดินสีขาวงดงามก็ได้ คุณอยากเห็นสภาพที่ไม่เคยเห็นมาก่อนไหม? คิดว่าคุณรู้ว่ามีโลกที่ยังไม่รู้จักแน่นอน!

ข้างในมีร้านกาแฟและเปิดเพลงคันทรีตะวันตกบรรยากาศที่ดีๆและกินแกงกะหรี่ญี่ปุ่นที่เจ้าของร้านแนะนำ พิซซ่า แฮมเบอร์เกอร์และอื่น ๆได้ นอกจากนี้ตั้งแต่วันที่ 7 – 13 กุมภาพันธ์มี”เทศกาลหิมะอาซาฮิกาว่า” ในงานนี้ก็ขี่ม้าได้ ถ้าคุณวางแผนไปเที่ยวอาซาฮิกาว่าในเวลานั้น ลองไปดูนะครับ

6． ระหว่าง10นาที เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของภูเขาที่ยอดเยี่ยม”โรปเวย์อาซาฮิดาเกะ ”

ภูเขาไดเซ็ตซึเป็นภูเขาที่ระดับความสูง 2,000 เมตรและถูกกำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติ และภูเขาที่ระดับความสูงที่สุด2291เมตรคือ”อาซาฮิดาเกะ” โรปเวย์อาซาฮิดาเกะนี้ขึ้นไปได้โดยใช้เวลา10นาทีตั้งแต่ความสูง1100เมตรไปถึงสถานีSugatamiซึ่งอยู่ที่ความสูง1100เมตร ในช่วงฤดูร้อนสวนดอกไม้กระจายไป 360ชนิดเหมือนกล่องอัญมณี นอกจากนี้ ตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนที่ยังมีหิมะ เริ่มบานพืชของภูเขาสูง

สัตว์ที่หลายชนิดและหลายพันธุ์ก็อาศัยอยู่ เช่นคุณสามารถชมหมีสีน้ำตาล หมาจิ้งจอก กระรอกลาย นกหัวขวาน นกฮูก นกอินทรีได้ ตลอดปีคุณสามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติยิ่งใหญ่ใน อาซาฮิดาเกะ เราขอแนะนำโดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงประมาณเดือนตุลาคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งแถวสถานีSugatamiเริ่มใบไม้ร่วงเร็วที่สุดในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนถึงกลางเดือนกันยายน คุณอยากกไปดูทิวทัศน์ของภูเขาที่ยอดเยี่ยมโดยโรปเวย์ไหม? ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน！

7． เข้าฟรีและเพลิดเพลินในสวนใหญ่ได้ที่มีพืช300 ชนิด 80,000 ต้น”การ์เด้นอาซาฮิกาว่ากิทะไซโตะ”

photo by happy_mimi   /   embedded from Instagram

นี่เป็นสวนขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อโดยตรงจากสถานีรถไฟ JR Asahikawa สวนนี้อยู่ในเมืองและขนาดประมาณ12เฮกเตอร์ ปลูกพืช300 ชนิด 80,000 ต้นด้วย คุณสามารถรู้สึกธรรมชาติของอาซาฮิกาว่า ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายนใน”แปลงดอกไม้บอร์ดอร์แม่น้ำ”ซึ่งเลียนแบบ”ผืนผ้ายูกะระโอริ”ปลูกพืช50ชนิด6500ต้น ใน“การ์เด้นแกลส”มีดอกไม้Kawaranadeshiko และ Ezomisohagiที่ริมแม่น้ำChubetsu คุณสามารถเดินเล่นได้

นอกจากนี้ในเดือนพฤษภาคมมีดอกแดฟโฟดิล ในเดือนกันยายนดอกไม้Hagiจะบานสะพรั่งใน”คลองส่งน้ำเมะโดอุ์” ช่วงปลายฤดูร้อนถึงฤดูใบไม้ร่วงสามารถเพลิดเพลินได้กับดอกไม้Mukuge11 ชนิดที่ถนนเดินเล่น”Yukitahonoro” มีสถานที่น่าดูมากมาย แม้ว่าไม่ค่อยรู้จักดอกไม้ก็เพลิดเพลินได้ ยิ่งกว่านั้น น่าดีใจว่าเข้าได้ฟรี สวนนี้เชื่อมต่อโดยตรงจากสถานีรถไฟ JR Asahikawa ถ้ามีเวลาว่างๆลองไปแวะที่นี่！

8． งานเทศกาลประเพณีที่รับทอดต่อจากสมัยโบราณ”เทศกาลโซอุนเคียวออนเซ็น เฮียวบะกุ”

โซอุนเคียวออนเซ็นเป็นเป็นสถานที่ที่สะดวกสำหรับการท่องเที่ยวในบริเวณอาซาฮิกาว่า และมีงานเทศกาลฤดูหนาว”เฮียวบะกุ มาซึริ”จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 มกราคม – 20 มีนาคมจัดการประมาณ 30 รูปปั้นน้ำแข็งขนาดใหญ่และเล็ก ๆ ในสถานที่ของแม่น้ำอิชิก้าริประมาณ 10,000 ตารางเมตร สถานที่บูชา ทาวเวอร์และกระดานลื่นโดยทำจากน้ำแข็ง ในตอนเย็นจะมีแสงสี 7 สว่างไสว นอกจากนี้พลุดอกไม้ไฟได้ทุกวันจนถึงวันที่5 มีนาคม คุณสามารถประสบโลกน้ำแข็งอันมหัศจรรย์พร้อมแสงสว่างได้

ในสถานที่นี่มีเหล้าสาเก”บริษัท ทากาซะโกะ ชูโซะอุ” และสามารถเพลิดเพลินเครื่องดื่มพิเศษใน“ร้านเหล้าน้ำแข็ง” ”วัดชินโตเฮียวบะกุ”ที่มีประโยชน์สำหรับความรัก·เงินทอง·การเรียนและมี”กระดานลื่นของน้ำแข็ง”ที่ทั้งผู้ใหญ่และเด็กก็สนุกสนานได้ น่าดีใจว่าเฉพาะสำหรับแขกที่มาพักที่โซอุนเคียวออนเซ็น มีบริการรถรับส่งไปกลับ / จากสนามบินอาซาฮีกาว่า·ถึงสถานีรถไฟซัปโปโร! ให้คุณพักที่โซอุนเคียวออนเซ็น สวมเสื้อกันหนาวและลองไปงานเทศกาลนี่！

9． มีร้านอร่อยเยอะๆ ”หมู่บ้านราเม็งอาซาฮิกาว่า”

photo by magical_crystal   /   embedded from Instagram

ราเม็งเป็นก๋วยเตี๋ยวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงในทั่วโลก ราเม็งฮอกไกโดก็คือ”ซัปโปโรมิโซะ(รสเต้าเจี้สว)””ฮาโกดาเตะซีโอะ(รสเกลือ)”และ”อาซาฮิกาว่าซีอิ๊ว”มีชื่อเสียง! ตั้งแต่สมัยโชวะเริ่มราเม็งอาซาฮิกาว่า น้ำซุปรสซีอิ๊วและต้มกระดูกหมูกับอาหารทะเล เพื่อไม่ให้น้ำซุปเย็นลงน้ำมันลอยบนผิวของซุป ปี 1996เปิด”หมู่บ้านราเม็งอาซาฮิกาว่า”มีร้านราเม็งอาซาฮิกาว่าหลายแบบ

ร้าน”อาโอบะ”เปิดร้านตั้งแต่ปี1947และเสนอราเม็งที่ไม่ใส่ผงชูรส. ร้าน”อิดเตะซึอังมาสด้า”ใช้วัตถุดิบอาหารที่เลือกอย่างดีและหมูชาชูอร่อยมากกก. ร้าน”อิชิดะ”มีความมั่นใจอย่างยิ่งต่อซุปกระดูกหมูของแข้ง. ร้าน”เต้นกิน”เสนอซุปที่ต้มๆกระดูกหมูกับไก่ระหว่างสองวันด้วยความมั่นใจ. ร้าน”ซานโตวกะ”เป็นร้านราเม็งนิยมมากในญี่ปุ่นและสาขาใหญ่อยู่ที่เมืองอาซาฮิกาว่า. ร้าน”โคโบะกาโตะอุ”เสนอราเม็งที่เส้นบะหมี่หยิกกับซุปกระดูกหมูอร่อย. ร้าน”ไบโคเอ็น”เสนอราเม็งที่เส้นบะหมี่หยิกและซุปทูอินวันคือซุปจากสัตว์และปลา
คุณน่าจะลังเลใจว่าไปไหนดี แต่นั้นก็สนุกด้วย ขอลองไปที่หมู่บ้านราเม็งนี่

10． ”ฮอกไกโดไอซ์พาวิลเลี่ยน” ที่สามารถประสบลบ 41 องศาเซลเซียส

photo by rikakope0000   /   embedded from Instagram

“ฮอกไกโดไอซ์พาวิลเลี่ยน”เป็นสถานที่สามารถประสบความหนาวตลอดปี ที่”ไอซ์ฮอลล์”คุณสามารถประสบลบ20องศาเซลเซียส！ เสาน้ำแข็งที่มีกำแพงน้ำแข็ง 600 m²·ปริมาณน้ำแข็ง 1000 ตันถูกผลิตขึ้นโดยใช้เวลา25ปี เสื้อกันหนาวเช่าฟรี ลองไปดู！เมื่อผ่านอุโมงค์น้ำแข็งแล้วจะเข้าโลกน้ำแข็งที่ยอดเยี่ยม คุณจะประสบลบ 41 องศาเซลเซียส

ที่จริงแล้ว ปี1902ในเมืองอาซาฮิกาว่าเคยบันทึกความหนาวที่สุดในญี่ปุ่น ตอนนั้นอุณหภูมิลบ 41 องศาเซลเซียส！สถานที่นี่จะประสบแค่10 วินาที คุณอดทนได้หรือเปล่า? นอกจากนี้ จะสามารถชมคุลิโอเน่ได้ที่เรียกว่านางฟ้าแห่งธารน้ำแข็ง แล้วก็ยังมีพิพิธภัณฑ์ห้องน้ำที่มีห้องน้ำที่ขำๆ ตั้งแต่ลบ 20 ℃ทุกอย่างจะเป็นน้ำแข็ง ดังนั้นจะประสบว่าตีตะปูโดยกล้วย ในช่วงฤดูร้อนถ้าคิดถึงความหนาว ลองไปดู! คิดว่าตกใจกับความเย็นเกินกว่าที่คาดหวัง!

ลองไปเที่ยวชมสถานที่น่าทึ่งของอาซาฮิกาว่า！

เป็นยังไงบ้าง? อาซาฮิกาว่าเป็นเมืองใหญ่และเจริญก้าวหน้า แต่ว่ายังมีธรรมชาติสวยงามและสถานที่ท่องเที่ยวนิยมมาก ยังมีสถานที่น่าไปและอาหารที่น่ากินมากมาย ซัปโปโรและฮะโกะดะเตะก็เป็นสถานที่ที่ดีในฮอกไกโด แต่อย่าลืมอาซาฮิกาว่านะ！คุณจะพบความสุขที่ได้ที่นี่เท่านั้น！