【อันดับร้านอาหารยอดนิยมในOtaru , ฮอกไกโด】บประกันความอร่อยโดยชาวญี่ปุ่น!!

โอตารุเป็นเมืองที่อยู่ไม่ไกลจากซัปโปโรสามารถเดินทางมาได้ง่ายด้วยรถยนต์หรือรถไฟ จึงมีผู้นิยมจะแวะเวียนมาเที่ยวเป็นจำนวนมาก หากจะแวะมาเที่ยวหรือหาของฝากก็ต้องอยากจะหาของกินด้วยสินะ ถ้าเช่นนั้นเราจะขอแนะนำร้านที่มีของกินอร่อยๆ ถูกปากชาวเมืองให้ได้ลองแวะไปลิ้มลองเป็นมื้อเที่ยงหรือมื้อเย็นกัน

1. เมนูเด็ดคือไก่หนุ่มทอดครึ่งตัวและซันกิ ร้านยุคสมัยแห่งไก่หนุ่ม นารุโตะ สาขาหลัก(Wakadori Jidai Naruto Honten)

photo by 9travel3   /   embedded from Instagram

ถ้าแวะเวียนมาโอตารุก็ห้ามพลาด “ไก่หนุ่มทอดแบบครึ่งตัว” และ “ซันกิ” เด็ดขาด! “ไก่หนุ่มทอดแบบครึ่งตัว” นั้นผ่านการปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยจนเข้าเนื้อ แล้วทอดจนเป็นสีน้ำตาลสวยงามน่ากิน ผิวนอกกรุบกรอบ เนื้อในนุ่มชุ่มฉ่ำ และต้องกินอย่างดิบๆ ทรงพลังอย่าให้แพ้หน้าตาที่ดูยิ่งใหญ่ของมันนะ!

ส่วน “ซันกิ” นั้นถ้าจะพูดง่ายๆก็คือคาราอาเกะเนื้อไก่ แต่สำหรับชาวฮอกไกโดแล้วมันไม่เหมือนกันนะ ที่นี่ไม่ว่าจะเป็นหมึกยักษ์ หรือหมึกกล้วยทอดก็เรียกว่าซันจิ เปรียบเสมือนอาหารแห่งจิตวิญญาณของชาวออกไกโดเลย กล่าวกันว่าผู้ริเริ่มคือร้าน “โทริมัตสึ” ที่เมืองคุชิโระ ซันกิที่หมักเนื้อให้เข้าถึงรสชาติแล้วทอดให้เกรียมกว่าปกตินิดหน่อยนั้นเข้ากับข้าวสวยและเหล้าได้เป็นอย่างดี

ถ้าคุณอยากลองกินไก่ทอดครึ่งตัวและซันกิที่เมืองโอตารุขอให้แวะมาที่ร้านยุคสมัยแห่งไก่หนุ่ม นารุโตะสาขาหลักได้เลย ที่ร้านแห่งนี้มีเมนูอื่นๆ เช่น ซูชิ ซาชิมิ ดงบุริ ฯลฯ ให้ลองอีกมากมายด้วย มากินได้ทั้งมือเที่ยงและมื้อเย็นเป็นร้านที่สะดวกอะไรเช่นนี้ ทุกวันที่ 15 ของเดือนคือ “วันซันกิ” จะลดราคาซันกิจานละ 100 เยน ส่วนวันที่ 30 จะเป็น “วันแห่งไก่” ที่จะลดราคาไก่หนุ่ม 200 เยนด้วยนะ

2. ร้านที่มีปังโรลที่เกิดจากการโคลาโบระหว่างขนมปังกับคามะโบโกะ คามะเอ (Kamaei)

photo by daisuke_tsu   /   embedded from Instagram

“คามะเอ” เป็นร้านคามะโบโกะเก่าแก่ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1905 และมีเมนู “ปังโรล” ที่ผสมเนื้อปลาบดกับขนมปังที่ไม่อากจะหาชิมที่อื่นได้! เจ้าของร้านรุ่นก่อนเป็นผู้คิดค้นเมนูนี้ขึ้นมาเมื่อปี 1962 โดยนำเนื้อปลาอลาสก้าพอลลัคมาบนแล้วปรุงรสด้วยหมูบด, หอมใหญ่, พริกไทย ก่อนจะนำไปทาบนขนมปังแล้วทอด

เมนูใหม่นี้ถูกคิดค้นขึ้นมาเพราะอยากให้ผู้คนได้กินคามะโบโกะกันง่ายกว่าที่เคย เมนูนี้มีอายุสั้นจึงไม่สามารถส่งไปขายที่อื่นได้ต้องมากินแบบทอดร้อนๆ ที่นี่เท่านั้น! แวะมาชิมขนมปังร้อนๆ จากเตาและคามะโปโกะแสนอร่อยกันเถอะ!

นอกจากนี้ในร้านยังมี “”คามะเอคาเฟ่”” ที่มีสินค้าเฉพาะคาเฟ่ให้เลือกซื้อมากมาย แถมยังมีราคาไม่แพงเพียง 216 เยนต่อชิ้นเท่านั้น มาใช้โอกาสนี้ลิ้มรสของอร่อยประจำถิ่นในราคาย่อมเยากันเถอะ!”

3. หากอยากกินข้าวสวยกับเกี๊ยวซ่าขนาดจัมโบ้ต้องร้านอาโอโซระ เซนิบาโกะซันโจเมะ (Aozora Zenibako San Joume)

photo by tohoku1989   /   embedded from Instagram

“ร้านอาโอโซระ เซนิบาโกะซันโจเมะ” เป็นร้านยอดนิยมที่มีลักษณะเหมือนบ้านในสมัยโบราณตั้งอยู่ริมทะเลห่างจากใจกลางเมืองโอตารุ เมนูที่ได้รับความนิยมที่สุดของร้านคือ “จัมโบ้เกี๊ยวซ่า” ที่ใช้วัตถุดิบของฮอกไกโดเท่านั้น

เกี๊ยวซ่าของร้านนี้มีขนาดใหญ่ถึง 10 เซนติเมตร นอกจากจะใหญ่เต็มปากเต็มคำแล้วไส้ในยังนุ่มชุ่มฉ่ำถูกปากผู้คนด้วย! แป้งที่นุ่มลิ้นของเกี๊ยวซ่าร้านนี้นอดแป้งโดยใช้น้ำซุปโครงไก่ โดยเจ้าของร้านทุกวัน วัตถุดิบต่างๆ เช่น กะหล่ำปลี หรือกระเทียมก็ใช้ของที่ปลูกได้ในฮอกไกโดเท่านั้นเพื่อควบคุมคุณภาพและรสชาติตามความตั้งใจของร้าน คุณสามารถจะสั่งเกี๊ยวซ่าจานเดียวก้ได้ แต่ไหนๆ มาแล้วก็น่าจะสั่งเป็นชุดแล้วกินกับข้าวดูนะ!

นอกจากเกี๊ยวซ่าแล้วยังมีอาหารชุดของทอด หรือไก่ชุบแป้งทอดด้วย เกี๊ยวน้ำกับขนมจีบของร้านนี้ก็รสชาติดีทีเดียว แถมยังมีของหวานเช่นโกมะดังโกะหรือเค้กด้วยนะ ถ้าจะมีร้านนี้ในวันหยุดล่ะก้ต้องเตรียมใจมาต่อคิวกันหน่อยนะ แต่ถ้าไม่อยากต่อคิวรอนานๆ จะขอให้ห่อกลับบ้านก็ได้!”

4. หากอยากลองกิวโทโร่ยามะวาบิด้งเมนูที่ดังและนิยมไปทั่วประเทศต้องมาโรงอาหารหมีขาว (Shirokuma Shokudo)

photo by yukiko_snowchang   /   embedded from Instagram

“โรงอาหารหมีขาว” เป็นร้านดังที่ถูกซ่อนเร้นเอาไว้ ดงบุริของร้านนี้ใช้เนื้อวัวจากโทคาจิบอร์นฟรีฟาร์ม ซึ่งเป็นฟาร์มที่เลี้ยงวัวให้มีสุขภาพดี ลดความเครียดให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทำให้ “โทคาจิกิวโทโร่ด้ง” ได้รับเลือกเป็นอันดับ 3 ของการประกวดอาหารดงบุริทั่วประเทศปี 2016 และกลายเป็นเมนูยอดนิยมไปทั่วประเทศที่รอให้คุณมาชิมอยู่ที่โอตารุ!

เนื้อวัวบดละเอียดกรอบเย็นฉ่ำที่นำมาวางบนข้าวร้อนๆ แล้วเสริมด้วยหอมยาวกับวาซาบิภูเขา ข้าวร้อนของข้าวจะทำให้เนื้อวัวค่อยๆ ละลายออกมาพร้อมกับรสอร่อยหวานฉ่ำที่มากขึ้น พอได้วาซาบิเผ็ดจี้ดผสมเข้าไปสักหน่อยก็ได้รสชาติที่ลงตัวเป็นที่สุด

นอกจาก “กิวโทโร่ยามะวาบิด้ง” แล้วเมนูอื่นๆ ที่คัดเลือกวัตถุดิบจากทั่วฮอกไกโดมาใช้ก็ไม่ควรพลาดเด็ดขาด หากคุณอยากลองชิมขึ้นมาก็ลองแวะมาที่ร้านนี้ดูนะ!

5. ชีสเค้กแสนอร่อยตัวแทนของโอตารุต้องมาที่ร้านลูตาโอะ (Le tao)

photo by ellamin3   /   embedded from Instagram

พูดถึงของฝากจากโอตารุทุกคนคงนึกถึง “ลูตาโอะ” กัน ร้านแห่งนี้มีอยู่ถึง 10 สาขาในตัวเมืองโอตารุ ทั้ง “ลูตาโอะ ชีสเค้กแล็บ” ที่เน้นชีสเค้ก หรือ “ลูตาโอะ เลอ ช็อกโกล่า” ที่เน้นขายช็อกโกแล็ตแถมยังมี “นูแบร์เบิร์ก ลูตาโอะ ช็อกลาทิเอร์” ฯลฯ อีก

ที่เราอยากจะแนะนำเป็นพิเศษคือ “ดูร์เบิลฟลอมาชสด” ของคาเฟ่ที่อยู่บนชั้น 2 ของ “ลูตาโอะ ปาทอส”! ดูร์เบิลฟลอมาชเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมที่สุดของลูตาโอะ ทำจากแรร์ชีสเค้กที่ละลายได้ในปากซ้อนกับเบคชีสเค้กที่อบจนมีรสเข้มข้น สปองจ์แกรมพี่ห่อไว้รอบๆ ก็ทำมาจากแป้งสาลีและไข่ที่ผลิตในฮอกไกโด นำมาผสมผสานอย่างประนีตบรรจงออกมาให้คุณได้ชิม

ถ้าไม่ได้ลองดูร์เบิลฟลอมาชสดละก็จะต้องเสียใจแน่นอน! ถ้าเผลอลืมกินที่โอตารุยังมีโอกาสกินได้อีกครั้งที่สนามบินชินจิโตะเสะนะ

6. ขึ้นชื่อเรื่องไคเซ็นด้งใส่เครื่องไม่ยั้งหรูหราสุดๆ ต้องร้านดุงบุริแดนเหนือ โรงอาหารทาคินามิ (Kita no Donburiya Takinami Shokudou)

photo by 61i5PMsiB_   /   embedded from Instagram

ตลาดโอตารุซันคาคุเป็นเหมือนครัวหลักของชาวเมืองโอตารุ และร้าน “ทาคินามิการค้า” ก็ตั้งอยู่ในตลาดดังกล่าว ทำให้สามารถขายดงบุริที่ใช้ปลาสดๆ ในราคาถูกได้ “กันโซะ วากามามะด้ง” (ข้าวราดหน้าตามใจฉันต้นตำรับ) เป็นดงบุริที่สามารถเลือกเครื่องปรุงที่จะใช้ได้ตามความชอบ!

คุณสามารถเลือกเครื่องปรุง 3-4 ชนิดที่ชอบจาก 10 ชนิด เช่นไข่ปลาแซลม่อน, หอยเม่น, มากุโร่, กุ้งโบตั๋น, หอยโฮตาเตะสด ฯลฯ ถ้าเลือก 3 อย่างราคา 2,000 เยน เลือก 4 อย่างราคา 2,500 เยน แต่มีไซส์เล้กให้เลือกได้ด้วย ถ้าไปกันหลายคนก็ขอแนะนำให้สั่งไซส์เล็กมาหลายๆ อย่างแล้วแบ่งกันกินก็ไม่เลวนะ

คนที่ไม่ชอบกินของดิบก็ไม่ต้องกังวลไปเพราะมีอาหารชุดปลาฮอกเกะหรือกิงดาระให้เลือกด้วย ทั้งดงบุริและอาหารเซ็ตจะมีซุปมิโสะมาให้ด้วย แต่ถ้าบอกทางร้านว่า “ได้ดูข้อมูลมาจากโฮมเพจ” เขาจะเปลี่ยนซุปปูให้แทนนะ! ร้านนี้มีคิวยาวอยู่เสมอ ถ้าอยากจะไปก็ต้องเตรียมใจกันหน่อย

7. หากอยากชิมผลไม้อร่อยๆ ต้องมาไอศกรีมพาเลอร์ มิโซโนะ (Icecream Parlour Mizono)

photo by kibacosaya   /   embedded from Instagram

“ไอศกรีมพาเลอร์ มิโซโนะ” เป็นร้านไอศกรีมแห่งแรกในฮอกไกโดเปิดกิจการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1919 วัตถุดิบเช่นนม, ไข่, น้ำผึ้งที่ใช้ล้วนเป็นของสดใหม่ได้คุณภาพทำให้ไอศกรีมของร้านมีรสชาติเช้มข้นแต่ก็โล่งปาก แม้จะเคยกินเป็นครั้งแรกแต่ก็เป็นรสชาติที่ทุกคนคุ้นเคยดี ตัวร้านก็ดูคลาสสิคเหมาะแก่การแวะพักระหว่างท่องเที่ยว

เมนูที่ควรลองของร้านนื้อไอศกรีมที่ใส่ผลไม้สดแสนอร่อย มีให้เลือกมากกว่า 30 ชนิดทั้ง สตรอว์เบอร์รี่, ช็อกโกแล็ต, กล้วย ฯลฯ ต้องมีรสที่คุณชอบอยู่แน่นอน นอกจากนี้พุดดิ้งพาร์เฟ่ต์ที่ใส่พุดดิ้งย่างหรือ พุดดิ้ง อะลาโหมดก็อร่อยไม่แพ้เมนูไหนเหมือนกันนะ

เมนูของร้านนี้จะต่างจากร้านไอศกรีมอื่นๆ ตรงที่ใช้ตัวคันจิที่เป็นอักษรจีนไม่ใช่ตัวคาตาคานะทำให้สัมผัสได้ถึงความเก่าแก่ดั้งเดิมของร้าน แถมพอถึงช่วงอากาศหนาวอย่างฤดูใบไม้ร่วง, ฤดูหนาวจะมี “นาเบะยากิอุด้ง” ที่ไม่เข้ากับร้านไอศกรีมออกมาขายด้วยนะ!
ข้อมูลพื้นฐาน

8. หากอยากชิมปังจูของดังที่สืบทอดกันมาของโอตารุต้องร้านคุวาตะยะ (Kuwataya)

photo by ranmiu31   /   embedded from Instagram

“ปังจู” คือขนมมันจู (ซาลาเปาญี่ปุ่น) ที่เหมือนขนมปังขายอยู่ที่ร้าน “คุวาตะยะ” ที่มีสินค้าชวนให้อยากตบมุขมากมาย ขนมชนิดนี้กำเนิดขึ้นมาในยุคที่ขนมปังยังมีราคาแพงและไม่แพร่หลายในหมู่ผู้คนทั่วไป และแพร่หลายอย่างกว้างขวางในโอตารุยุคเมจิ

ซาลาเปาที่แป้งหุ้มมีลักษณะเหมือนขนมปังได้รับความนิยมเพราะมีรสชาติดีในราคาที่ย่อมเยา ขนมนี้มีขนาดประมาณทาโกะยากิ แป้งหุ้มจะบางและกรุบกรอบ ส่วนใส่ข้างในก็อัดแน่นไม่มีช่องว่าง ที่ร้านคุวาตะยะมีไส้ยอดนิยม 8 ชนิดได้แก่ ถั่วแดงบด, ถั่วแดงเม็ด, ช็อกโกแล็ต, ครีม, ถั่วแดงโมจิ, คาราเมลสด, ถั่วแดงชาเขียว, คาร์มันเบลชีส และยังมีไส้ตามฤดูกาลเช่น ถั่วแดงซากุระ, นมสดฮอกไกโด, ครีมฟักทอง, ไวท์ช็อกโกแล็ต ด้วย

ตัวร้านที่ตั้งอยู่ในเทอร์มินอลคลองโอตารุมีพื้นที่ให้กินภายในร้านได้ด้วย จึงเหมาะที่จะแวะมาชิมขนมปังจูร้อนๆ ระหว่างเดินเที่ยว

9. หากอยากลองโอตารุราเม็งต้องมาร้านราเม็ง โชะได (Ramen Shodai)

photo by y_morisawa   /   embedded from Instagram

พูดถึงฮอกไกโดก็ต้องถึงอาหารเส้น และร้านที่ควรแวะไปชิมให้ได้คือ “ราเม็ง โชะได” ที่ดูภายนอกไม่เหมือนร้านราเม็งเพราะเป็นอาคารอิฐ แถมภายในร้านยังตกแต่งได้น่าสนใจด้วย

ราเม็งที่ได้รับความนิยมที่สุดของร้านคือโชยุราเม็ง แต่ที่เราอยากจะแนะนำคือ “ชิโระทามาริโชยุราเม็ง” ที่ขายเพียง 30 ถ้วยต่อวันเท่านั้น ถ้าอยากชิมให้ได้ต้องรีบไปต่อคิวกันนะ

เมนูนี้ทำขึ้นมาอย่างพิธีพิถันโดยใช้ไวน์ขาว, ชิโระทามาริโชยุ, หอยแดดเดียวเป็นพื้นฐานในการต้มซุป เครื่องปรุงที่ใช้ได้แก่ แก้มหมูต้ม, หน่อไม้, หอมยาว และสาหร่ายตามสมัยนิยม เพื่อไม่ให้เด่นเกินกว่าซุปและเส้นที่เป็นตัวหลัก หากอยากได้อะไรกินเพิ่มเติมขอแนะนำให้ลองสั่ง ชามาโย” ชาชูคลุกมายองเนสกับข้าวสวยแล้วห่อด้วยสาหร่ายขนาดพอดีคำมาชิมดูสิ!

10. หากจะชิมอันคาเคะยากิโซบะอาหารท้องถิ่นของโอตารุก็ต้องร้านโอตารุ อันคาเคะโดโคโระ โทโรริอัน (Otaru Ankakedokoro Torori An)

photo by takahiro_m39   /   embedded from Instagram

โอตารุเองก็มีเมนูอาหารอร่อยประจำถิ่นระดับ B ที่มีราคาถูกเหมือนกัน! นั่นคือ “โอตารุอันคาเคะยากิโซบะ” ที่ผ่านการพัฒนาปรับปรุงโดยคนครัวของร้านต่างๆ มานานกว่า 70 ปี

ปัจจุบันถูกเรียกว่า “โกะโมคุอันคาเคะยากิโซบะ” และสามารถหากินได้ในร้านอาหารกว่า 30 แห่งภายในเมืองโอตารุ โดยไม่มีการกำหนดเครื่องปรุงหรือวิธีทำเอาไว้ชัดเจน ทำให้แต่ละร้านก็มีสูตรแตกต่างกันไปให้ลองชิมเทียบได้ไม่มีเบื่อ

ร้านที่เราจะขอแนะนำคือร้าน “โอตารุ อันคาเคะโดโคโระ โทโรริอัน” ที่เพิ่งเปิดใหม่เมื่อปี 2015 ใช้เส้นและซอสราดหน้าอันคาเคะส่งตรงจากโรงผลิต ใส่เครื่องมากมายทั้งอาหารทะเลเช่น กุ้ง, หมึก และผักมากมายเช่น แครอท, ผักกาด, หอมใหญ่ มาทำอันคาเคะยากิโซบะให้เลือกกินได้ 2 รสชาติคือ โชยุและเกลือ นอกจากยากิโซบะแล้วยังมีอันคาเคะราเม็ง หรือข้าวผัดอันคาเคะให้คุรได้ลองชิมกันด้วย

มาลองลิ้มรสชาติอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของโอตารุกันดีกว่า!

เป็นอย่างไรกันบ้าง? เมืองโอตารุที่มีประวัติศาสตร์เป็นเมืองท่าเก่าแก่ของฮอกไกโด แต่เรื่องของกินนั้นไม่ใช่ว่าจะมีดีเฉพาะอาหารทะเลเท่านั้น ในเมืองมีร้านอาหารมากมายที่ชาวเมืองแวะเวียนไปใช้บริการ หากใช้เวลาอยู่ที่โอตารุนานพอคุณอาจโชคดีได้กินของอร่อยๆ ก็ได้! หากมีโอกาสก็มาลองชิมอาหารของโอตารุให้ครบกันเถอะ!